ดู ปริศนาพลังฮีโร่
ดู ปริศนาพลังฮีโร่ หัวข้อของเรื่องถือว่าใช้ได้เลย โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของการกล่าวถึงพลังวิเศษที่เชื่อมโยงกับอาการทางจิตใจซึ่งมันมีความอุตสาหะจะชี้แจงในทางวิทยาศาสตร์ การเป็นซูเปอร์ฮีโร่จำเป็นต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง ไม่เหมือนกันของคนที่มีพลังวิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นกับทำร้ายบุคคลอื่น การมองว่าพลังฮีโร่นั้นเป็นคำแช่ง แล้วก็การยอมรับที่จะเป็นตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมซึ่งเพียงพอเป็นภาพยนตร์ฝรั่งเศสมันก็จะมีความแปลกใหม่หน่อยๆตรงประเด็นมันจะถูกพรีเซนเทชั่นแบบให้เก็บเนื้อหาของโลก ไม่ได้บอกคนดูแบบจะๆแต่ว่าให้เราตรวจผ่านตัวละครแล้วก็ปมของตัวละคร รีวิว ปริศนาพลังฮีโร่ ที่น่าเสียดายคือช่วงท้ายเรื่องดูมานะจะโชว์ว่านี่เป็นหนังฮีโร่และจบลงแบบง่ายๆตามสูตรสำเร็จของหนังวีรบุรุษ โดยที่มันมิได้บิวต์อารมณ์หรือกำลังขับเขยื้อนมากพอที่จะทำให้รู้เรื่องว่าเพราะอะไรหรือยังไง ทั้งที่ปมอะไรมันน่าสนใจเอามากๆแม้กระนั้นตัวละครบางตัวที่ดูเหมือนมีประโยชน์อะไรแม้กระนั้นก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมายเสมือนที่หนังบากบั่นนำเสนอ ตัวอย่างเช่นตัวละครเด็กสาวที่ปูมาว่ามีพลังดีเลิศ แต่ว่าดันเปลี่ยนเป็นนักแสดงที่สำคัญเพียงแค่ในทางที่ตัวร้ายปรารถนาพลังรวมทั้งถูกจับตัวไปจนถึงหมดเรื่อง ในส่วนของคอสตูมวีรบุรุษก็ดูเท่ในแบบฝรั่งเศส มองอินเตอร์ด้วย
Godzilla Vs Kong คำลงท้ายจักรวาลมอนสเตอร์ นับจากปี 2014
ที่ได้มีภาพยนตร์เรื่อง Godzilla ที่เป็นหนังเปิดจักรวาลมอนสเตอร์ให้กับทาง Legendary และก็ Warner Bros. ซึ่งเป็นเจ้าของบทวิจาร์ณ์ที่สามารถพูดได้ว่า แตกเป็น 2 ส่วน คือถูกใจนักวิจารณ์ แต่ผิดจิตใจคนดูคอหนังแอคชั่น บางทีอาจด้วยเหตุว่าด้วยที่ฉากน้องก็อดซิลล่า ออกมาน้อยกว่าคู่อริอย่าง มูโตซะอีก
ทำให้ กระทั่งทำให้ภาคหลังๆได้มีการปรับบทบาทให้ผู้ครอบครองชื่อเรื่องได้แอร์ไทม์ในหนังมากขึ้นเรื่อยๆเอาใจผู้ชมใน Godzilla: King of the Monster 2019 ซึ่งพอเพียงมาภาคนี้ไม่วายโดนคนบ่นอีกว่า หนังมืดมาก สู้กันแม้กระนั้นช่วงเวลากลางคืน รวมไปถึงพาร์ทดราม่าของมนุษย์ในเรื่องชวนให้ลำไยมาก
และความยาวหนังที่ยาวเกิน 2 ชั่วโมง หลายเสียงบอกค่อนข้างยืดมาก ทำให้ ผกก. Godzilla vs Kong จำต้องทำการบ้านอย่างหนัก จนแล้วจนรอดปี 2020 บริษัทผลิตภาพยนตร์ก็ประกาศเลื่อน (หนีวัววิด19) จาก มีนาคม ไปเป็น เดือนพฤศจิกายน แล้วก็ประกาศเลื่อนอีกครั้งมาเป็นปีนี้เดือน พฤษภาคม
และเลื่อนขึ้นมาอีกรอบเป็น มีนาคม 2021 จนกระทั่งในที่สุดก็ได้มองกันซักครั้งตัวหนังในภาคนี้เป็นเรื่องราวภายหลังจากภาคก่อน 3 ปี เมื่อก็อดสิลล่าปรากฏตัวอีกครั้ง แม้กระนั้นคราวนี้มิได้มาเพื่อต่อสู้กับตัวประหลาดยักษ์ เปลี่ยนเป็นว่าก็อดสิลล่าออกก่อกวนทำลายศูนย์วิจัยของบริษัท APEX ทำให้มนุษย์นั้นเริ่มใส่ใจว่า
หรือแท้จริงแล้วก็อดสิลล่าจะเป็นตัวร้ายกัน? ส่วนอีกฝากนึงที่เกาะหัวกะโหลก คองก็ถูกกักกัน เพื่อคุ้มครองปกป้องไม่ได้ คองรวมทั้งอดสิลล่าจะต้องมาปะทะกันแต่ว่าแล้ว ก็ได้มีดราชการลิน ซึ่งมีแนวความคิด ฮาโลว์ เอิร์ธ กล่าวถึงโลกพวกเรานั้น แกนกลางโลกเป็นแหล่งกำเนิดเหล่าอสุรียักษ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นบางทีก็อาจจะเป็นแหล่งกำเนิดของเผ่าพันธ์คอง
รวมไปถึงพลังงานที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้มนุษย์นั้น สามารถเอาชนะก็อดซิลล่าได้ เลยจำเป็นต้นขน คองไปยังประตูสู่ฮาโลเอิร์ธ ณ ดินแดนแอนตาร์คติการ์ แต่ในระหว่างทางก็อดสิลล่าก็ได้ออกมาปะทะเข้าซะก่อน เนื้อเรื่องจะเป็นเยี่ยงไรถัดไป อย่าลืมไปติดตามมองในโรงภาพยนตร์กันครับข้างหลังดูจบ
จะต้องขอแยกเป็น 2 ส่วนครับผมเป็น 1 ส่วนที่ถูกใจ ดู ปริศนาพลังฮีโร่ อาจหนีไม่พ้นพาร์ทของตัวประหลาด ที่มีแอร์ไทม์ออกจะมาก แล้วก็ฉากปะทะกันที่ยาวสาแก่ใจมาก ฉากต่อสู้ต่างๆไม่มืดแล้ว มุมกล้องที่ส่วนใหญ่ใช้มุมกล้องแบบ Human Eye View ทำให้สัตว์ยักษ์มองตระการตาขึ้นไปอีก เหมือนได้มอง Pacific Rim
ภาคแรกเลยก็ว่าได้ รวมถึงพล็อตหนังที่ค่อนข้างจะแฟนตาซี มีความกาว แบบก้าวกระโจนจากภาคแรกมากมาย (อันนี้ชม) เหมือนเขียนบทมาเพื่อเอาใจคนดูทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงและสนุกสนานไปกับฉากแอคชั่นต่างๆได้อย่างไม่ยากเย็นไม่ต้องมีบทที่สลับซับซ้อน ซึ่งพอสมควรหนังมันแปลงโทนมาเป็นแนวนี้
จึงทำให้มีส่วนที่เกลียดชังมันก็คือ พาร์ทมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นเรื่องของ แมดดี้ แมดิสัน นักแสดงหลักจากภาคก่อน ซึ่งเสมือนตัวบทเพียรพยายามใส่น้องเข้ามาเพื่อหนังมีคาแรคเตอร์นักแสดงเดิมจากหนังภาคก่อน มาปรากฎตัวสร้างความสัมพันธ์ แต่บทของนักแสดงนี้ กล่าวได้ว่าแทบจะไร้สาระอะไรก็ตามต่อเส้นเรื่องเลยก็ว่าได้ ค่อนข้างน่าผิดหวังในส่วนนี้สรุปแล้วนับว่าเป็นหนังภาคต่อทิ้งท้ายจักรวาลมอนสเตอร์ ที่ค่อนข้างน่าพอใจ แล้วก็แอบหวังให้จักรวาลนี้ได้ไปต่อในภาคต่อๆไปเอามากๆจริงๆ8.5/10
รีวิวหนัง Judas and the Black Messiah – หนังโคตรดี รายละเอียดสะเทือนอารมณ์ สนุกจนกระทั่งน่าสะพรึงกลัว
Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ หนังดราม่า/ชีวิตที่ผลิตมาจากเรื่องจริงในชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในตอนปี 1968 -1971 ที่เกิดเรื่องราวของ เฟรด แฮมป์ตัน หัวหน้ากรุ๊ป อิลลินอยส์ แบล็ค แพนเตอร์ (Illinois Black Panther Party) เป็นกลุ่มกองกำลังปฏิวัติต่อสู้เพื่อชาวผิวสี
หนังกำกับโดย ชาก้า คิงบอกเลยว่านักแสดงของ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ นั้นทุกคนไม่ธรรมดาเลย เริ่มตั้งแต่ แดเนียล ค้างลูคุณย่า ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ (Get Out, Widows, Black Panther) มารับบทเฟรด หมูแฮมป์ตัน และ ลาคีธ สแตนฟีลด์ (“Atlanta,” “The Girl in the Spider’s Web”)
มารับบทวิลเลียม โอ’นีล นอกเหนือจากนั้นยังมี เจสซี่ พลีมอนส์ (“Vice,” “Game Night,” “The Post”), โดมินิก ฟิชแบ็ค (“The Hate U Give,” “The Deuce”), แอชตัน แซนเดอร์ส (“The Equalizer 2,” “Moonlight”) และก็ มาร์ติน ชีน (“The Departed,” “The West Wing,”)แล้วก็ทันที่ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์ เข้าฉายในอเมริกาก็เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เดินหน้ากวาดรางวัลเต็มกำลังเลยนะครับ
โดยสามารถครอบครองรางวัลไปแล้ว 5 รางวัล จากเวทีชั้นแนวหน้าของแวดวงภาพยนตร์ อาทิ BAFTA, GOLDEN GLOBES, SAG AWARDS รวมทั้ง CRITICS CHOICE AWARDS และก็ ดู ปริศนาพลังฮีโร่ ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 อีกด้วย ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย นอกนั้นผู้แสดงอย่าง แดเนียล คาลูยา ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเหมือนกัน ในสาขา นักแสดงสมทบชายดีอีกด้วยขอรับ โดยการประกาศผลรางวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายนนี้
Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ จะเล่าถึง วิลเลียม โอ’นีล (ลาคีธ สแตนฟิลด์) ที่เป็นสายลับตำรวจได้เข้าแทรกซึมอยู่ในกรุ๊ปเปลี่ยนแปลง อิลลินอยส์ กางล็ค แพนเตอร์ งานเลี้ยง และก็มีบทบาทคอยจับตามองหัวหน้าอย่างเฟรด แฮมป์ตัน (แดเนียล ค้างลูยา) เนื่องจากว่า โอ’นีลช่ำชองด้านการปลุกปั่น
เขาก็เลยรับงานเป็นสายลับให้กับ รอย มิตเชลล์ (เจสซี่ พลีมอนส์) แล้วด้วยพลังทางพรรคการเมืองของหมูแฮมตันเริ่มมากยิ่งขึ้นโอ นีล เขาจะพยุงพลังที่คุณงามความดีเอาไว้ได้ หรือ สยบแฮมป์ตันกับเดอะ แพนเตอร์ส Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ เปิดเรื่องมาจะเป็นการที่ วิลเลียม
โอ’นีล ตัวจริงมานั่งเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขอรับ แล้วหนังก็จะพาเราไปรู้จักกรุ๊ปคณะปฏิวัติและก็ต่อสู้เพื่อคนผิวสี ที่นำโดย เฟรด แฮมป์ตัน ขอบอกที่ตรงนี้เลยว่าหนังหัวข้อนี้สะท้อนสังคมได้แบบเจ็บมากมายๆกับความผิดพลาดของกระบวนการยุติธรรมได้แบบแจ่มแจ้ง ที่ดูแล้วจำเป็นต้องอึ้งกันอย่างยิ่งจริงๆ
แล้วสิ่งที่หนังหัวข้อนี้ทำได้ดีเยี่ยมๆอีกอย่างก็คือการสะกดผู้ชมครับผม พาผู้ชมดำดิ่งลงไปที่แบบหาทางขึ้นไม่พบเลยการเล่าเรื่องของหนังก็ค่อนข้างจะเรียบง่ายแต่ว่าแอบแฝงไปด้วยพลังรวมทั้งยังมีแมสเสจที่เชื้อเชิญขนลุกเต็มไปหมดดังเช่นว่า “ที่ไหนมีประชากร ที่นั้นมีอำนาจ” อันนี้เป็นแค่น้ำจิ้มส่วนคนไหนกันที่ต้องการทราบว่ามีคำไหนอีกบ้างจำต้องไปลองสัมผัสคุ้นเคยนะครับ
แต่ขอเตือนว่ามีขนลุกแน่นอนมาต่อกันกับด้านต่างๆของหนังครับผมด้านฉากต่างๆหนังทำเป็นดีเยี่ยมไม่มีข้อผิดพลาดเลยพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปใน คริสต์ศักราช 1968-1971 ได้สมบูรณ์แบบทั้งรถยนต์อีกทั้งการแต่งกายที่แอบเท่ห์ไม่เบาอย่างยิ่งจริงๆ ด้านดาราหนังต้องขอตบมือให้เลยครับอีกทั้ง ลาคีธ สแตนฟิลด์ และก็
แดเนียล ติดอยู่ลูยา ทั้งคู่แสดงออกมาได้ดิบได้ดีมากๆยิ่งเป็นฉากในโบสถ์ ดู ปริศนาพลังฮีโร่ แดเนียล ติดอยู่ลูยา ทำเป็นดีเลิศๆครับ ยิ่งทำให้ผู้ชมอินแบบไม่รู้จะอินอย่างไรเลยล่ะช่วงท้ายของหนังบอกเลยบีบหัวใจผู้ชมมากๆลุ้นแบบสุดๆทั้งยังความดาร์กทั้งยังเศร้าสร้อย แต่ว่ามันคือความจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
และก็ไม่มีใครสามารถกลับไปปรับแก้มันได้ แล้วหนังก็ยังมาเข้าฉายขณะที่ถูกต้องราวกับจับวางกันเลยทีเดียว ยิ่งทำให้หนังหัวข้อนี้มองน่าดึงดูดมากขึ้นไปอีกครับ แล้วคนไหนกันที่ต้องการสัมผัสหนังที่บางครั้งก็อาจจะเป็นภาพยนตร์ที่เยี่ยมที่สุดในปีนี้ แล้วก็ ถูกใจหนังที่สร้างมาจากประวัติศาสตร์จริงๆอย่างงี้
ก็ไม่สมควรพลาดกับ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ แบล็ก เมสไซอาห์ หนังโคตรดี มาพร้อมกับรายละเอียดสะท้อนสังคมที่โคตรเจ็บปวดของความเลวทรามของกระบวนการยุติธรรม ที่แม่งเรียวมากๆดูแล้วอิน อิน(เรือ)หาย กันเลยทีเดียว ไม่อยากที่จะให้พลาดกันจริงๆกับหนังเรื่องนี้
กลับสู่หน้าหลัก https://bri-chan.com/