ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย

ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย

ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย

ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย สำหรับดาราไม่เคยทราบสักคน แต่ว่าเล่นได้ดิบได้ดีรวมทั้งเป็นธรรมชาติ ซีนอารมณ์บางทีอาจจะไม่มากมายแต่ว่าก็ทำให้พวกเราอินโดยเฉพาะความเกี่ยวข้องของนักแสดงที่มีทั้งยังสุข ทุกข์ น่านับถือ และก็ดูมีเสน่ห์เกือบทุกตัว หากว่าหนังจะมิได้ให้เวลากับผู้แสดงพวกนี้มากมายซักเท่าไหร่ ที่ขอดูเลยคืองานภาพที่เป็นส่วนประกอบของหนังทุนต่ำกับมุมกล้องถ่ายรูปกว้างแบบหนังฮีโร่ที่ฉับไวและก็แปลกใหม่พร้อมทั้งงานซีจีที่มีไม่มากมายแม้กระนั้นก็ไม่ไก่กา รีวิว ปริศนาพลังฮีโร่ แค่มันมิได้ถูกขับเน้นย้ำราวหนังทุนสูงเรื่องอื่น ทำให้เราน่าเชื่อถือว่าผู้ที่มีพลังยอดเยี่ยมอีกทั้งในด้านไฟ น้ำแข็ง หรือพลังสนามไฟฟ้ามองน่าไว้ใจและไม่ดูโอเวอร์พาวเวอร์เกินไป ดนตรีจัดว่าแนวรวมทั้งติดหูมากมายมันผสมระหว่างดนตรีแบบอนาคตแล้วก็สไตล์หนังไซไฟมีการกระตุ้นอารมณ์มีการใช้ซาวนด์เอฟเฟกต์ตอนฉากแอ็คชั่นได้แบบเข้มข้น เสริมอารมณ์ในฉากบู๊ที่มีไม่มากมายแม้กระนั้นดุเดือน เสียงตุ้บตั้บ และก็ฉากปล่อยพลังตอนท้ายที่สุดอลังการมาก ต้องการให้ทุกคนได้เห็นจริงๆ

รีวิว เรื่อง ผี เล่าเรื่อง ผี เล่า

เป็นหนังที่เล่าเรื่องผี 3 เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน (เอ๊ะหรือมันมีจุดเกี่ยวโยงแม้กระนั้นพวกเราไม่รู้เรื่องนะ) ขอแบ่งรีวิวเป็นเรื่องๆละกันเรื่องแรก “มันอยู่ในรถ”บอกเล่าเรื่องราวของนักธุรกิจคนหนึ่งที่จำต้องพบกับเรื่องราวแปลกเมื่อเขาเรียกแท็กซี่กลับบ้านนี่เกิดเรื่องที่น่ารำคาญที่สุดใน 3 เรื่อง จังหวะการเล่า

แนวทางสำหรับการเสนอ หรือจังหวะผีก็ไม่ได้น่าดึงดูดเลยแม้กระทั้งจุดเดียว เรื่องราวมันคาดการณ์ง่ายดาย และหัวข้อนี้ไม่มีอะไรเลยจริงๆทางด้านดาราในหัวข้อนี้อย่าง เป้-อารักษ์ ก็มิได้มีบทอะไรที่เด่น และราวกับจะเล่นใหญ่ไปด้วยซ้ำเรื่องที่สอง “ไปผุดไปเกิด”หัวข้อนี้บอกเกี่ยวกับหญิงสาวที่มองเห็นผี

เธอได้ถูกผู้ครอบครองบังกะโลแห่งหนึ่งจ้างให้ไปไล่ผีไปผุดไปกำเนิดจะได้เปิดอพาร์เม้นท์ใหม่ แต่ว่าเรื่องราวมันไม่ง่ายแบบนั้นในขณะนี้จัดว่าเปิดเรื่องได้น่าดึงดูด กึ่งกลางก็ทำเป็นไม่เลว แม้กระนั้นตอนจบนี่แบบอิหยังวะ ง่ายๆอย่างนี้เลย และก็มองรวดรัดตัดจบเร็วเกินความจำเป็น ส่วนทางด้านดาราอย่าง ปราง นับว่าทำได้ดีมากยิ่งกว่าที่คิด บางครั้งก็อาจจะไม่ว้าวมากมาย แม้กระนั้นอยู่ในระดับที่สอบผ่าน ที่สำคัญเธองามจริงๆเรื่องที่สาม “ใบลาน”

เรื่องราวของคนเขียนที่เดินทางมาเก็บตัวที่บ้านพักแห่งหนึ่ง แต่ว่าทำยังไงก็คิดงานไม่ออก จนได้เจอกับใบลาน พอเพียงเขาได้เริ่มเขียนลงบนนั้น เขากลับคิดงานออก แต่ว่ามันมากับเรื่องราวแปลกๆที่เขาไม่คาดคิดอีกหนึ่งในระหว่างที่น่าดึงดูด เปิดเรื่องน่าสนใจมากมายๆคอนเซ็ปท์ยังน่าติดตาม

มีการเซ็ทสถานที่ปูเรื่องราวให้เราจัดแจงรับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก้าวหน้า แต่จังหวะสำหรับในการเล่าบางช่วงก็ราวกับมองรวบรัดไปเสียหน่อย แนวความคิดเรื่องใบลานเจ๋งนะ ถ้าหากเอามาขยี้ให้หนักมันจะเป็นเรื่องนึงที่มีแนวความคิดที่น่าสะพรึงกลัวเลยแหละ ดาราอย่างหมาก-ปริญ พวกเราว่าเขาแสดงดีนะ

แม้กระนั้นด้วยบทที่ไม่ส่งสักเท่าไหร่ ในรูปภาพรวมเบ็ดเสร็จมันเลยดูโชคร้ายรวมทั้งทั้งยัง 3 เรื่องที่เล่ามาทุกตอนมันต้องมีคติสอนใจ แทรกสอดแนวความคิดในการดำรงชีพแบบ…ไม่ต้องก็ได้มั้ย อารมณ์ราวกับดูฟ้ามีตาฉบับหนังอย่างไรแบบนั้นในรูปภาพรวมของ เรื่อง ผี เล่า มันจึงกลายเป็นว่าปราศจากความน่าขนลุกจากผีเลยสักนิด ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย เรื่องราวก็มิได้น่าดึงดูดมากพอ ราวกับจะดี แม้กระนั้นดันออกมาโชคร้าย และก็มันก็ยังไม่น่าติดตามมากพอสักเท่าไหร่ สรุป…นี่คือเรื่องผีที่เปรียบเทียบดุจนิทานกล่อมนอน

รีวิวหนัง(มองฟรี) Wine War การทำศึกกลลวง (2017) – หนังแอ็คชั่นของคนถูกใจไวน์ กับแผนเอาคืนสุดแยบยล

Wine War การสู้รบกลโกง หนังจีนแนวแอ็คชั่น กำกับรวมทั้งควบนำแสดงโดย หลี่หมิง (จาก Comrades, Almost A Love Story เถียนมีมี่ 3,650 วันรักเธอผู้เดียว, City of Glass มากยิ่งกว่าคำว่ารัก ตามด้วยนักแสดงอย่าง จางฮั่นหยู และก็ ลิลลี่ จี Wine War การสู้รบกลโกง เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของ

สุ่ยหยาง (จางฮั่นหยู) รวมทั้ง วัลลีย์ (หลี่หมิง) เป็นเพื่อนที่เติบโตขึ้นมาด้วยกันในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อมา เถาวัลย์ย์ ถูกคู่รักชาวประเทศฝรั่งเศสรับมาอยู่ด้วยกันที่กรุงปารีส เมื่อโตขึ้นเขากลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการที่เก่งหาตัวจับยาก ในช่วงเวลาที่ สุ่ยหยาง กลายเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตแบบไร้สาระไปวันๆจวบจนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อ

สุ่ยหยาง โทรไปอ้อนวอนจากวัลลีย์เพื่อช่วยประมูลไวน์ที่มีชื่อว่า The God of Wine (ไวน์เทพเทวดา) ซึ่งว่ากันว่าเป็นสูตรที่ช่วยสำหรับในการกระตุ้นกล้ามเนื้อของหัวใจ รวมทั้งทำให้เขาได้เจอกับ ยอนเน่ ผู้แทนฝ่ายขายคนสวยผู้ทำให้เขาหลงรักเธอเข้าอย่างจัง เมื่อนั้นจุดกำเนิดของความน่าสงสัยก็ก่อตัวขึ้นไปพร้อมๆกับความเร้นลับที่ทวีตัวขึ้นตลอดเวลา

และที่สำคัญก็คือ มันมิได้เกี่ยวโยงกับการประมูลไวน์เลยแม้กระทั้งนิดนึง! Wine War การรบกลโกง เปิดเรื่องมามีการเกริ่นถึงเหล้าองุ่นที่มีชื่อว่า “ไวน์เทวดา” ซึ่งไม่มีใครทราบว่ามันอยู่ที่ใดเว้นแต่ลูกชายคนเล็กของผู้ครอบครองตระกูล และไม่มีคนใดกันทราบดีว่าเขาคนนั้นเป็นใคร มีเพียงแค่การคาดเดาของตัวร้ายว่า

ใบหน้ามีรอยแผลเป็น สรุปว่าหนังหัวข้อนี้ค่อยข้างดูเพลินเลยล่ะ ถึงเรื่องราวจะไม่ค่อยสมบูรณ์มากเท่าไรนักแต่ว่าก็ไม่ใช่ปัญหามากแค่ไหน เพราะว่าหนังใส่ฉากแอ็คชั่นกับคำพูดตลกแทรกเข้ามาตลอด ส่วนการเดินเรื่องก็ค่อยข้างลื่นเลย น่าติดตาม ทำให้พวกเราอยากทราบเลยว่าไวน์เทพเทวดาเนี้ยมันจะแค่ไหนกันเชียว

ส่วนฉากแอ็คชั่นก็พอสมควรเอามัน ยิงกันกระจัดกระจาย ระเบิดรถไฟนู้นนี่นั้น ฉากพีคๆอาจจะเป็นการต่อสู้ในช่วงท้ายเรื่องที่แบบแอบเอาใจช่วยอยู่นะ ผู้ใดกันแน่ต้องการสัมผัสภาพยนตร์จีนอย่างนี้และก็ชอบสำหรับการกินไวน์ Wine War สงครามกลฉ้อฉล ประเด็นนี้ถือว่าตอบโจทย์ครับ Wine War การศึกกลลวง หนังจีนมองเพลิน บวกด้วยแอ็คชั่นมันส์ๆรายละเอียดดีแต่ค่อยไปนิดเหมาะสำหรับคอหนังจีนแล้วก็คนชอบดื่มเหล้าองุ่นเรื่องนี้ไม่สมควรพลาด

รีวิว Chaos Walking – จิตปฏิวัติโลก

บากบั่นเล่าเรื่องได้ดีเเต่หน้าเสียถางไปได้ไม่ถึงดั่งดวงใจหวังผมกลับมารีวิวหนังละหลังจากที่ห่างไปสักพักตอนนี้ไม่ค่อยว่างครับ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตดิสโทเปีย สังคมตกอยู่ในสภาวะสงคราม และได้เกิดเชื้อโรคพิลึกทำลายสิ่งมีชีวิตผู้หญิงจนกระทั่งหมดเกลี้ยง ส่วนเพศชายทุกคนที่เหลืออยู่จะกำเนิดอาการอะไรบางอย่างที่ไม่อาจควบคุมตัวได้

ทุกความคิดในหัวมันจะถูกถ่ายถอดออกมาเป็นภาพ ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย หรือที่พวกเขาเรียกมันว่า “เสียงคิด” กระทั่งวันหนึ่งเวลาที่ “ทอดด์ ฮิววิตต์” (ทอม ฮอลแลนด์) เริ่มเดินทางกับสุนัขตัวโปรด ได้บังเอิญเจอกับ “วิโอล่า” (เดซี่ ริดลีย์) หญิงคนแรกในชีวิต สิ่งที่เขาไม่เคยมีความคิดว่าจะได้พบ เรื่องราวนี้ส่งผลให้เกิดเรื่องราวที่การเสี่ยงภัย ค้นหาคำตอบสุดลึกลับ เพื่อยับยั้งภัยร้ายครั้งสำคัญที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง! จุดเด่น/จุดอ่อน

จุดเด่น

1.เป็นหนังที่ดำเสนอเรื่องราวที่เเปลกใหม่เเละไม่เหมืยนที่หนังเรื่องไหนเคยทำ

2.หนังได้ใช้พลังด้านความคิด ที่คิดอะไรจะมองเห็นอย่างงั้นได้ดิบได้ดีนะครับ ใส่มามากจนกระทั่งสนุกสนาน ทำให้หนังไม่เบื่อ

3.ทอมฮอลแลนด์ เเสดงได้ดีมากมายเขากับหน้าที่เจริญจริงๆ

จุดอ่อน

1.หนังเล่าเรื่องได้รวดเร็วทันใจสำหรับหนังที่เเต่มาจากนิยาย มันไม่เหมาะะขอรับควรเล่าให้ละเอียดกว่านี้ เพราะว่า ในหนังพวกเราเเทบไม่รู้จักอะไรเลยจริงๆอย่างน้อง ซัก 2ชั่วโมง10กำลังดี

2.ผมปวดศีรษะกลับการตัดตต่อหนังหัวข้อนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ เเต่มันรู้สึกเเปลกๆ

3.หนังตัดไปหลายส่วนกระทั่งทำให้หลายฉากที่หน้าจะเล่าได้ยาวกว่านี้จู่ๆก็ตัดไป ทำให้อารมณ์ในเรื่่องๆก็หายไปเฉยๆเเละหนังมิได้เล่าฉากที่เอาออกไปทำให้ไม่ทราบว่าต่อมาเกิดไรขึ้นพอมาอีกทีเป็นเเบบนี้เเล้วหรอเเบบงง ทำให้มีความรู้สึกไม่สม่ำเสมอ

4.สิ่งที่ผมเกลียดสุดๆเป็น อสูรกายในเรื่อง ที่คิดว่าหน้าจะเด่นเเละมีไรให้มากกว่านี้กลับ มาให้มองเห็น2ฉากเเละหายไปเฉยๆ

5.การเฉยๆปมในเรื่องที่มันดูง่ายเหลือเกินหมด ไม่สมกับที่รอคอย

ห้าวเป้งขา..อย่าแกงน้อง

นี่คือหนัง แคนดิท ที่ไร้บทไม่มีการคาดคะเนเพราะเหตุว่า พี่เปิ้ลและคณะทำงานได้ตั้งโปรเจ็คขึ้นมาเพื่อจะแกงครึ่งหนึ่งสอนน้องๆไอดอลหน้าใหม่อย่างวง CGM48 วงน้องสาวของ BNK ซึ่งจะแกล้งจะแกงปกติก็บางครั้งอาจจะไม่มันเท่าไร เลยจะต้องดึงแขกรับเชิญตัวท็อปของวงการเช่น น้าเน็ก, แจ็คแฟนฉัน, ตัด กันตถาวร

และแก๊งยังโอม มาช่วยเพิ่มสีสัน แถมมีเกี่ยวข้องช่วยแกง ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย รวมทั้งโดนแกงไปกับเขาด้วยเหมือนกัน สำหรับตัวหนังจำต้องบอกก่อนเลยว่าด้วยหน้าหนังที่เขาขายเป็นความแคนดิทแต่ว่าพอเข้าไปจริงๆคุณจะพบว่ามันให้น้ำหนักให้สัดส่วนไปกับการเป็นสารคดีที่เล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังชีวิตไอดอลมากกว่า

อันนี้จะต้องกล่าวถึงมาเอ่ยถึงสิ่งแรกเพราะเหตุว่ามันอาจจะเป็นผลให้หลายคน ไม่สิทุกคนที่ตั้งท่าเข้ามาดูความเป็นหนังแบบแส่น่าจะมีช็อคแล้วก็ตกอกตกใจกันมากๆซึ่งนอกจาก genre หนังมันจะผิดคาดแล้วมันยังกระทบถึงความไม่สุดสำหรับเพื่อการแกล้งสำหรับการแกงด้วย แล้วมันน่าเสียดายมากมายด้วยเหตุว่าหนังดึงแขกรับเชิญตัวจี๊ดๆของวงการมาทั้งนั้น

แถมแนวความคิด ไอเดียเริ่มมันยังน่าดึงดูด แม้กระนั้นเพียงพอจำเป็นต้องซอฟต์ลง จำต้องอะไรลงทำให้การแกล้งมันไม่สนุกอย่างที่เรามุ่งมาดกันไว้แม้กระทั้งน้อยมาก ทั้งยังความต่อเนื่องของเรื่องราวมันยังขาดไปมากมาย ทำให้ภาพรวมของหนังถ้าคุณมิได้อินไอดอล มันยิ่งแห้งแล้วก็ดูตัดขาดผู้ชมไปหน่อย

แม้กระนั้นถ้าเกิดคุณเป็นแฟนๆน้องๆวงไอดอลโดยเฉพาะ CGM หรือ BNK นี่เป็นหนังสารคดีที่พูดถึงตั้งแต่ตอนเริ่มหัดยืนของวงน้องสาวมาจนถึงการเติบโต ซึ่งน่าจะตอบโจทย์กับผู้ที่ถูกใจน้องๆเลย คือถ้าว่าเค้าขายให้ออกมาในรูปแบบของหนังไอดอลมันบางทีก็อาจจะโอเคกว่าเดิมมาก

พราะเหตุว่าถ้าเกิดมองดูมุมนี้นี่ก็เป็นหนังสารคดี CGM ที่มีสีสันมองเพลินใช้ได้ แม้กระนั้นพอมันออกมาหน้านี้เลยน่าผิดหวังพอสมควร อย่างที่พูดว่าโชคร้ายมากมายจริงๆเนื่องจากว่ามันอยู่กึ่งกลางของทุกอย่าง ทั้งสิ้นทั้งหมดมันเลยไปสุดไม่ได้ เอาสนุกสุดขำสุดไม่ได้ มั่นใจว่าคนไม่ใช่น้อยก็คงจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแกงแทนไม่มากมายก็น้อย

โดยเหตุนี้คนใดกันคาดหวังว่าจะเข้าไปขำ เข้าไปดูคนโดนแกล้งแบบจำพวกที่ว่าบางทีอาจจะโกรธชิงชังกันจริงๆคงจะจำต้องลดความคาดหวังไปหลายเท่าเลย แต่หากคุณเป็นคนที่รักรวมทั้งอยากช่วยเหลือน้องๆไอดอลที่คุณถูกใจ ห้าวเป้งคะ…อย่าแกงน้องน่าจะเป็นหนังที่คุณน่าจะไปดูขั้นต่ำสักหนึ่งครั้งนึงครับ

Raya And The Last Dragon หนังอาเซี่ยนร่วมจิตใจ

โดยดิสนีย์หลังจากที่ดิสนีย์พาคนดูไปเที่ยวเมืองจีนใน “มู่หลาน” พาออกผจญภัยตามหมู่เกาะไปกับ “โมอาน่า” นี่นับว่าเป็นทีแรกเลยที่ดิสนีย์ได้จับเอาวัฒนะธรรมทางโซน SEA เอเซียอาคเนย์ มาปั้นเรื่องราวขึ้นสู่จอใหญ่ให้ได้ชมกันในแบบแอนิเมชั่น

ถ้าถามว่าเพราะเหตุไรถึงจำต้องเอาวัฒนธรรม โดยรวมของโซนนี้มาใช้ บางครั้งก็อาจจะเพราะเรื่องราวในเรื่องนี้นั้น มีการแบ่งเป็นเผ่าต่างๆซึ่งทำให้สามารถสอดแทรกความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศเข้าไปเป็นลักษณะเด่นในแต่ละเผ่าได้อย่างพอดีนั้นเอง เนื้อเรื่องกล่าวถึง อาณาจักรคูมันยี่ห้อ

ที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างพร้อมใจ จนกระทั่งดรูน ผีสางได้เข้ามากล้ำกลายอาณาจักร ทำให้หลายคนเปลี่ยนเป็นหิน และก็แตกคอกัน รวมถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่ามังกร สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนนี้สูญพันธ์กันเลยทีเดียว เรื่องราวที่ว่าเลวแล้วนั้น หลายร้อยปีต่อมา เพื่อพ่อของรายา (ราชาของเผ่าหัวใจ)

ได้เริ่มทำสานสัมพันธ์ทุกเผ่าเข้าด้วยกันด้วยการเชิญมาร่วมงานสังสรรค์ ปริศนาพลังฮีโร่ พากไทย แต่ว่าและได้กระตุ้นให้เกิดการฉกฉวยมณีมังกร ซึ่งเป็นลูกแก้วยอดเยี่ยมที่ทำให้สามารถปกป้องรักษาจาก ดรูน ปีศาร้ายได้ ได้ถูกทำให้แตกกระจายเป็นเปลี่ยนส่วน และก็ส่วนประกอบถูกนำไปใช้คุ้มครองตามแต่ละเผ่า จนแล้วจนรอด

รายา ลูกสาวของผู้ครอบครองเผ่าหัวใจ จำเป็นต้องทำการตามหามังกรตัวท้ายที่สุด เก็บองค์ประกอบมณีมังกรให้ครบเพื่อจะได้นำคนที่รักกลับมาได้จะว่าไปแล้วงานวางแบบจำนวนมากในเรื่อง ออกจะที่จะมีแบบอ้างอิงจากวัฒนธรรมไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการจับเอามาดัดแปลงปรับปรุงแก้ไข

และก็ลดทอนให้ดูเป็นสากลขึ้นไม่ได้ไทยจ้ะๆแบบแอนิเมชั่นของไทยหลายๆเรื่อง ในส่วนงานออกแบบนี้ถือว่าทำออกมาได้น่าพึงพอใจอย่างมากมาย ใครจะไปรู้สึกว่าวันหนึงจะได้มองเห็นวัฒนธรรมไทยถูกถ่ายทอดออกมาโดยทีมงานจากสตูดิโอฮอลลีวูด ผสมกับความแฟนตาซีของเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงช่างพอดี ไม่อยากที่จะให้คุณพลาดดูในโรงภาพยนตร์จริงๆ8/10

กลับสู่หน้าหลัก https://bri-chan.com/