ดูหนังเวียดนาม

ดูหนังเวียดนาม

ดูหนังเวียดนาม

ดูหนังเวียดนาม หนังประเด็นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือชื่อ Three Comrades แต่งโดยเอริค มาเรีย เรอมาร์ก เป็นหนังที่ถ่ายทอดความพ่ายแพ้ของอเมริกันในสงครามเวียดนามออกมาได้เป็นอย่างดี โดยถ่ายทอดผ่านตัวละครหลักๆ สามผู้แสดงคือไมเคิล นิค และสตีฟ ทั้งสามเป็นคนอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย

หนังได้ปูเรื่องวิถีชีวิตของหมู่เขาตั้งคราวก่อนสงคราม ก่อนที่จะตัดไปสู่สงครามอย่างรวดเร็วทันใจ และส่งผลให้แสดงตัวชีวิตข้างหลังสงครามอย่างคนพ่ายแพ้แตกสลาย และไม่ได้มีอะไรดียิ่งขึ้นเลย ยิ่งกว่านั้นนี้บางฉากในหนังเรื่องนี้ยังถ่ายทำในไทยอีกต่างหากหลังพบชัยชนะในสงครามแต่ก่อน ๆ หน้า ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2

ครอบคลุมสงครามเกาหลี ‘สงครามเวียดนาม’ คือสงครามแรกที่ประเทศมหาอำนาจ ‘ตำรวจโลก’ อย่างสหรัฐอเมริกา จะต้องพ่ายแพ้ หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วม 2 ทศวรรษในการส่งกำลังทหาร กำลังเงิน และกำลังอาวุธ เข้าเข้าสู่เวียดนามใต้ เพื่อจะต่อกรหมวดหมู่เวียดกงที่มีเวียดนามเหนือหนุนหลัง

ซึ่งไม่น่าใช่แค่ 3 ประเทศนี้เพียงแค่นั้นที่เข้ามามีส่วนเข้าร่วม หนังคาวบอยพากย์ไทย แต่ยังดึงผู้สนับสนุนเข้ามาวุ่นวายด้วย และไม่ต่างออกไปจากสงครามคราวก่อน ๆ หน้า ที่เรื่องราวการรบ ความเป็นไปของสงคราม ผู้ผู้คนที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงผลพวงจากสงครามจะถูกเอามาบอกเล่าบนหน้าจอภาพยนตร์ และนี่คืองานหนังสงครามเวียดนามที่พูดเลยว่า ‘ห้ามพลาด’ และ ‘จำเป็นจะต้องหามาดู’

หนังหัวข้อนี้เป็นเรื่องดังที่สร้างขึ้นจากเค้าโครงของหนังสือ Heart of Darkness เขียนโดยโจเซฟ คอนราด โดยในหนังจะเสนอแนะเรื่องราวของผู้กองวิลลาร์ด ที่ได้รับภารกิจให้ตามหาผู้พันเคิร์ท ซึ่งมีรายงานมาว่าเขาได้เสียสติ และได้ทำให้ผู้คนล้มตายอย่างสยดสยองเป็นจำนวนมาก หนังเลสเบี้ยนเต็มเรื่อง โดยตัวหนังจะก่อให้เราได้เห็นได้ชัดสงครามเวียดนาม ความโหดร้าย ความสูญเสีย ความเบื่อหน่าย และดวงใจที่เหนื่อยล้าจากสงครามที่ช้านานที่กำเนิดขึ้นผ่านผู้แสดงของผู้กองวิลลาร์ด ยิ่งตัวหนังดำเนินไปก็จะยิ่งบ่งชี้สึกเหมือนได้ดำตรงเข้าไปในทางมืดของดวงใจมนุษย์ขึ้นมาก

ดูหนังเวียดนาม

APOCALYPSE NOW (1979)

จากหนังสือ ‘Heart of Darkness’ ของ โจเซฟ คอนราด (Joseph Conrad) แต่เปลี่ยนที่กำเนิดเหตุจากเบลเจียน คองโก เป็นเวียดนาม ที่แนะนำภาพความไม่ดีของสงคราม ซึ่งเกาะกินผู้คนได้อย่างตรงลึก มาร์ติน ชีน (Martin Sheen) เป็นทหารอเมริกันที่ไปปฏิบัติหน้าที่ลับในป่าลึกของเวียดนาม

ด้วยการ ‘เก็บ’ ผู้พันเคิร์ตซ์ (Kurtz) ทหารกรีนเบเรต์ (Green Beret) ที่รับบทโดยมาร์ลอน แบรนโด (Marlon Brando) ซึ่ง ‘หลุด’ จากความเป็นไปของโลก และทำตัวเหมือนพระเจ้าของคนเราใต้การปกครอง หนังครบเครื่องทุกด้าน การแสดงสะดุดตา

ได้โปรดักชันเนี้ยบ การบอกเล่าประเด็นต่าง ๆ ทั้งสภาพหัวใจของมนุษย์ ความวิกลจริตและไร้สาระของสงคราม รวมทั้งเทคนิคคิดแบบจักรวรรดินิยม ถูกนำเสนอในเชิงเครื่องหมาย จนให้ได้รับรู้เหมือนเป็นรูปสงครามแบบแอบสแตร็กต์ หนังประเด็นนี้กำกับโดยโอลิเวอร์ สโตน ซึ่งเขาได้เอาประสบการ์ณจริงของตนเองที่ได้ไปเข้าร่วมรบในสงครามเวียดนามมาเข้าร่วมถ่ายทอดในหนังประเด็นนี้

โดยหนังประเด็นนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับทหารอเมริกันกลุ่มหนึ่งที่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปรบในเวียดนาม ดูหนังเวียดนาม จากเด็กหนุ่มที่ไม่มีเจอการ์ณพวกเขาก็ได้เหมือนกันเรียนรู้เกี่ยวกับสงครามที่จริงจริงมากขึ้นผ่านการรบกับทั้งเวียดกงและสงครามของทหารฝ่ายเดียวกันเอง การรบที่อ้างอิงว่าเป็นการต่อสู้เพื่อชาติกลับแปรเปลี่ยนเป็นการฆ่าชาวบ้านหรือคนที่ไม่เกี่ยวพันยังไง้มนุษยธรรม

หนังหัวข้อนี้ดำเนินเรื่องราวผ่านนายทหารนาวิกโยธินชื่อว่าโจ๊กเกอร์ โดยตัวหนังจะจำแนกเป็นสองพาร์ทใหญ่ๆ ร่วมกัน ในพาร์ทแรกหนังจะนำเสนอให้ปรากฏถึงการเข้ามาฝึกฝนเป็นทหารในบูทแคมป์ กระบวนการฝึกที่เข้มข้นและสถานะการณ์มากมายที่เกิดขึ้นจะมีผลให้เห็นคนธรรมดาที่ค่อยๆ

เปลี่ยนแปลงไปเป็นเครื่องจักรการรบในสงคราม และพาร์ทที่สองเกิดเรื่องดังของการลงสนามรบจริง การจะต้องฆ่าคนจริงๆที่ไม่น่าใช่แค่การฝึกฝนอีกถัดไป ข้อสงสัยที่เริ่มต้นกำเนิดขึ้นในใจว่าการรบที่กำเนิดขึ้นอยู่นี้มันเพื่อจะอะไรกันแน่ ตัวหนังจะมีผลให้เห็นได้ชัดถึงความยุ่งเหยิงและความขัดแย้งในใจของผู้แสดงท่ามกลางสงครามที่ดำเนินไปอย่างไม่ปราณี

หนัง 5 ค่าตอบแทนออสการ์ ซึ่งรวมทั้งหนัง, ผู้กำกับ และสมทบชายยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ วอลเคน – Christopher Walken) เรื่องของเพื่อนหมู่หนึ่งที่ไปสงครามเวียดนาม โดยหวังจะได้เกียรติยศกลับมา แต่ภายหลังจากโดนเวียดกงหยิบตัว และตกเป็นผู้เล่นในเกมรัสเซียนรูเล็ตต์ (Russian Roulette) เพื่อความบันเทิงของพวกมัน หมวดเขาก็ถูกผลิตลายโดยบริบูรณ์จากสงคราม

ขณะที่หนังสงครามเวียดนามเรื่องอื่นจะมีภาพสงครามที่ชมยิ่งใหญ่อลังการ แต่หนังประเด็นนี้ซึ่งเล็กน้อยถ่ายทำในบ้านเรา ‘ผิดแผกแตกต่าง’ เมื่อเผยจิตใจที่ถูกผลิตลายโดยสงครามของคนธรรมดา ๆ จากเมืองเล็ก ๆ ที่ยากจะหาพื้นที่ของตนในโลก เมื่อกลับมาบ้านพร้อมการสูญเสีย สิ้นหวัง และหดหู่ ที่บางคนก็ไม่รู้ดีว่าจะกลับมาเพื่อที่จะอะไร และบางรายก็รับไม่ไหว

เรื่องราวของทหารในหน่วยรบกองร้อยที่ 3 กองพันที่ 1 หนังหัวข้อนี้จะค่อยๆดำเนินเรื่องไปเรื่อย โดยในระยะแรกของหนังจะมีผลให้แสดงตัวชีวิตของทหารต่างๆ ในกองร้อยนี้ วิธีการใช้ชีวิต รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่จึงควรทำในแต่ะวัน จนค่อยๆ ดำเนินเรื่องไปสู่สมรภูมิรบ

โดยพวกเขาได้รับภารกิจให้ยึดเนินซึ่งหมู่เขาเรียกว่า Hamburger Hill ถึงมันจะเป็นเพียงแค่เนินแห่งหนึ่ง แต่การควรต้องต่อสู้กับศัตรูที่อยู่บนเนินเหนือหัวของพวกเขาขึ้นไปนั้นมันไม่ง่ายเลย รวมทั้งสภาพภูมิอากาศและสภาพสนามรบที่ไม่เป็นใจเนื่องด้วยฝนตกและเป็นดินโคลนก็ส่งผลให้ทำการรบได้ลำบากกว่าเดิม

การเล่าเรื่องของหนังแยกประเภทแยกจากกันแจ้งชัด ครึ่งแรกคือเรื่องราวในค่ายฝึก ที่ทารุณทั้งสภาพร่างกายและหัวใจของเหล่าทหารหน้าใหม่ จนหนึ่งในจำนวนนั้นเปลี่ยนเป็นฆาตกร ส่วนครึ่งข้างหลังเป็นเรื่องของพลทหารเดวิส (รับบทโดย แมทธิว โมดีน – Matthew Modine) หนึ่งในผู้เข้ารับการฝึกหัดจากครึ่งแรก ที่ประสบหน้ากับข้าศึกในสงครามเวียดนาม ที่เล่นงานหมวดเขาซึ่งผ่านการฝึกหัดให้เป็นนักฆ่าได้อยู่หมัด

อีกทั้งที่ซึ่งเป็นอีกสักทีที่ความล้มเหลวของการเข้าสู่สงครามเวียดนามของสหรัฐอเมริกาถูกเสนอแนะ ครึ่งข้างหลังของหนังไม่น่าจะใช่ไม่เหมือนแค่สถานะการณ์ แต่โทนยังแตกต่างจากกัน จากบรรยากาศเหนือจริงในครึ่งแรก สู่ความสมจริงในครึ่งข้างหลังที่เหมือนตอกเน้นหนักว่า ชัยชนะที่หวังถึงของมหาอำนาจอเมริกัน มันคือเรื่องเพ้อฝัน เนื่องมาจากที่แท้มันโหดร้ายยิ่งกว่า

หนังประเด็นนี้เรียกได้ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับสงครามที่มีเทคนิคไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ซึ่งตัวหนังจะค่อนข้างจะออกไปในแนวฟีลกู้ด โดยจะเกิดเรื่องเหมือนกับของแอดเดียน ซึ่งเขาได้รับภารกิจพิเศษที่ให้ไปประจำการเป็นดีเจคอยสร้างรอยยิ้มให้กับทหารอเมริกันที่ไซง่อน เพื่อจะนำมาซึ่งการทำให้เหล่าทหารได้คลายเครียดจากสงครามที่จำเป็นที่จะต้องเหน้าจอมา ซึ่งเหล่าทหารต่างถูกใจเขามาก

แต่ความน่าหัวเราะ และความตลกของเขาก็ค่อยๆ แปรไปเมื่อได้เหน้าจอกับความโหดร้ายของสงครามที่แท้จริง นอกจากนี้นี้การที่เขาได้ไปอยู่ที่เวียดนามนำมาซึ่งการทำให้เขาได้ตกหลุมรักกับสาวชาวเวียดนามคนหนึ่งชื่อเรื่องว่าตรินห์ ซึ่งผู้แสดงนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง เนื่องด้วยว่าแสดงโดยนักแสดงชื่อเรื่องอย่างกับของไทยหมายถึงจินตหรา สุขพัฒน์ นั่นเอง และหลายๆ โลเคชั่นในหนังประเด็นนี้ก็ยังถ่ายทำในประเทศไทยอีกด้วย

เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ LeLy Hayslip เธอกำเนิดในหมวดหมู่บ้านที่สวยงามอย่างกับสวรรค์ เป็นเพียงลูกคนที่ทำนาธรรมดาๆ แต่วันหนึ่งเมื่อสงครามได้ปะทุขึ้น หมวดบ้านที่เป็นอย่างกับสวรรค์ของเธอก็ค่อยๆแปรแปลงกลับกลายเป็นนรก ชาวบ้านหลายคนต่างไปร่วมกับเวียดกง โดยเชื่อว่าทำเพื่อที่จะต่อสู้กับผู้ที่มารุกรานประเทศและทำให้ประเทศที่เคยสงบสุขของหมวดเขาถูกแบ่งแยกออกเป็นเหนือใต้

ซึ่งเลลีก็ได้เหมือนกันร่วมเป็นสายให้แก่เวียดกงด้วยเช่นเดียวกัน แต่ชีวิตของเธอก็ต้องพลิกผันเมื่อเธอถูกฝั่งรัฐบาลหยิบไปเค้นหาความลับ เธอถูกทรมานจำนวนไม่น้อยแต่ก็รอดออกมาได้ แต่ชีวิตข้างหลังรอดออกมากลับโหดร้ายยิ่งกว่า ในเมื่อฝั่งเวียดกงก็ไม่เชื่อถือเธออีกต่อไป เป็นเรื่องเช่นเดียวกับที่หดหู่และสะเทือนใจจนแทบจะชมไม่ไหว พูดได้ว่าชีวิตของเธอได้ประสบพบเห็นทั้งสวร

PLATOON (1986)

การเล่าเรื่องของตัวละครที่รับบทโดยชาร์ลี ชีน (Charlie Sheen) ไม่ต่างออกจากการเล่าประสบการณ์ตรงของสโตน ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกเวียดนาม หนังเผยสภาพที่ทหารอเมริกันจำเป็นจะต้องเจอ ในเวียดนามและกลายเป็นสาเหตุความล้มเหลว ดูหนังเวียดนาม เมื่อจำเป็นจะต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะให้ทราบดีว่า ศัตรูของตนคือผู้ใด? อยู่ที่ไหน? และจุดหมายที่ทำให้ตัวเราเองควรต้องมาอยู่ตรงนี้?

ที่เมื่อรวมเข้ากับความตึงเครียดของเหตุการณ์ มันก็ทำให้มีการเกิดความขัดแย้งทั้งช่วงทหารอเมริกันกับชาวเวียดนาม และณ เวลาทหารอเมริกันร่วมกันเอง ความดีกับความเลว ที่กัดกร่อนความเป็นมนุษย์ในตัวไปเรื่อยๆ ๆ จนกำเนิดโศกนาฏกรรมของผู้บริสุทธิ์ และการฆาตกรรมความบริสุทธิ์ของนักแสดง

เรื่องราวที่ดัดเปลี่ยนมาจากเรื่องจริงของรอน โควิก ทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนาม กำกับโดยโอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับคนเดียวกับเรื่อง Platoon ซึ่งตัวผู้กำกับเองก็ได้เช่นกันผ่านสงครามเวียดนามมาด้วยด้วยเหมือนกัน หนังจะเล่าเรื่องราวของรอน โควิก เขาเกิดในวันที่ 4 เดือนกรกฏาคม

ตามชื่อเรื่องหนังนั่นเอง ตั้งแต่ชีวิตในวัยอนุบาลเขาใฝ่ฝันที่จะเป็นทหาร เป็นวีรบุรุษที่คอยป้องกันประเทศชาติมาโดยตลอด แม้จะต้องบาดปวดอย่างมากจากสงครามเขาก็ยังยึดมั่นที่จะรักชาติและส่งเสริมการรบในสงครามเวียดนามถัดไป แต่แล้วชีวิตหลังรอดพ้นจากสงครามของเขาก็ได้ส่งผลให้เขามีความคิดที่แปรไป

จากเรื่องของตนเอง (‘Platoon’) สโตนจับเอาเรื่องของรอน โควิก (Ron Covic) ‘คอหนัง’ (ฉายาของนาวิกโยธิน ที่ได้มาเนื่องมาจากเกิดการสอดแผ่นหนังลงในเครื่องแบบรอบๆคอเสื้อ) ในสงครามเวียดนาม ที่กลายมาเป็นหมู่แอนตี้สงคราม มาขึ้นจอ ที่นำมาซึ่งการทำให้ได้ออสการ์กำกับดีเลิศตัวที่ 2 และ ทอม ครูซ (Tom Cruise)

ในบทโควิกที่ไม่ใช่โควิดได้ชิงนำชาย หนังแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่สังคมอเมริกัน ปฏิบัติต่อทหารหาญได้อย่างถึงแก่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามเวียดนาม ผ่านชีวิตและช่วงเวลาในการเรียนรู้ของโควิก นับตั้งแต่จากปลุกเร้าจนเหมือนเป็นฮีโรในตอนเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้น

และเป็นผู้คนที่ถูกละทิ้งเมื่อกลับมาอย่างผู้แพ้ ในสงครามที่มีผู้คนไม่เห็นด้วย แล้วเมื่อจำเป็นจะต้องอยู่ภายในสภาพของคนพิการ อัมพาตท่อนข้างล่าง ควรต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีพ (หมวดหมู่) เขาก็เช่นเดียวกับถูกหักข้างหลัง และเปลี่ยนเป็นแรงเคลื่อนให้เจ้าตัวไปอยู่ขั้วตรงข้าม

สะดุดตาด้วยการชี้ให้เห็นที่เป็นการด้นสดของโรบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) ในบทแอเดรียน โครนาวร์ (Adrian Cronauer) ดีเจสถานีวิทยุกล่อมขวัญทหารอเมริกันในสงครามเวียดนาม ที่มีตัวตนอยู่จริง หนังชี้แนะประเด็นของสงครามผ่านสายตาผู้คนที่มิได้อยู่ด้านในสนามรบ ส่งผลให้ได้เห็นภาพใหม่ ๆ โดยเฉพาะความขัดถกเถียงเรื่องการนำเสนอข่าวสาร

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ที่บางคราว ‘ความจริง’ ก็ควรจะพูดในช่วงปิดไมค์ และในความโหดเหี้ยมของสงคราม ก็มีความอบอุ่นและสวยงามให้สัมผัส แต่ก็คงถูกทำลายได้ในพริบตา ข้างหลังความรุนแรง อัปลักษณ์ของสงคราม ก้าวเข้ามา เช่นที่โครนาวร์ได้รับรู้ และส่งผลให้ความนึกคิดต่อสงครามของเขาผิดแผกเดิมอีกต่อไป

หนังเกี่ยวกับสงครามเวียดนามหลากหลาย เรื่อง โดยมากจะสอดแทรกเรื่องราวของทหารอเมริกันบางหมู่ที่ฆ่าชาวบ้าน หรือคนที่ไม่เกี่ยวเนื่องเช่นไร้มนุษยธรรม ซึ่ง Casualties of War จะมีรายละเอียดเน้นหนักในเรื่องนี้ โดยเกิดเรื่องเช่นเดียวกับของทหารอเมริกันกลุ่มหนึ่งที่ไปข่มขืนและฆ่าชาวบ้านอย่างโหดเหี้ยม

หนังหัวข้อนี้ก็เลยส่งผลให้พวกเราได้เห็นว่าทหารที่ควรจะเป็นวีรบุรุษกลับทำตัวไม่ต่างจากเดนมนุษย์ แต่ก็ใช่ว่าทหารอเมริกันทุกคนจะแสดงตัวด้วยกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้ การที่ทหารหน่วยเดียวกันต้องมาต่อสู้กันเอง ช่วงมนุษยธรรมหรือหมวดพ้องหมู่เขาจะเฟ้นอะไร นอกจากนี้นี้บางฉากของหนังยังถ่ายทำในไทยอีกด้วย

ได้แรงบันดาลใจจากบันทึกเรื่องราวของ แดเนียล แลง (Daniel Lang) ในนิวยอร์กเกอร์ เมื่อปี 1968 ซึ่งมีที่มาจากเรื่องราวในปี 1966 ที่สาวเวียดนามคนหนึ่งถูกพาตัวออกไปจากหมวดหมู่บ้านโดยทหารอเมริกัน ก่อนที่จะถูกข่มขืนแล้วฆ่า หนังแสดงด้านมืดของสงครามได้อย่างไม่อ้อมค้อม

โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหน้าที่ชั้นหัวหน้าคัดสรรค์จะใช้อำนาจตามความสนใจของตนเอง และข้อคิดเห็นโต้เถียงจากทหารระดับผู้บางส่วน กลายเป็นการท้าทายสายการบังคับบัญชา และสร้างความวุ่นวาย เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ทุกท่านล้วนได้รับบาดแผลจากสงครามเช่นที่ชื่อหนังว่าเอาไว้

https://bri-chan.com/