โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย พากไทย

โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย พากไทย

โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย พากไทย

โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย พากไทย นักเรียนแพทย์ที่มีอาการนอนไม่หลับ 4 คน หลงกลไปร่วมการทดลองทางประสาทวิทยาศาสตร์ที่กลายเป็นฝันร้าย รวมทั้งทุกคนต้องหาทางหนีเอาชีวิตรอดก่อนที่จะสายเหลือเกินเรียกว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่น่าชอบใจของเด็กนักเรียนภาพยนตร์ เมื่อ Netflix ตกลงใจเปิดโอกาสได้ผลงานภาพยนตร์ของนิสิต ‘DEEP โปรเจ็กต์ลับ หลับเป็นตาย’ ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทวดา รวมทั้งบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด สำหรับการร่วมพัฒนาโปรเจกต์ จนได้ออกฉายทาง Netflix นับว่าเป็นงานนักศึกษาชิ้นแรกของไทยที่ได้ไปอยู่ในแพลตฟอร์มสุดยอดเลยก็ว่าได้

รีวิวหนัง(มองฟรี) The Island เกมเกาะท้าทายดวง – เมื่อความอยู่รอด ขึ้นอยู่กับเกมเดิมพันของชะตาชีวิต

The Island ดิ ไอส์แลนด์ เกมเกาะท้าทายดวง ภาพยนตร์คอมเมดี้แฟนตาซีชนชาติประเทศฮ่องกง นำแสดงโดย ซูฉี เซ็กซี่สตาร์นิรันดร, จางอี้ซิง หรือ เลย์ หนึ่งในสมาชิกวง EXO และ หวางเป่าเฉียง ที่รับหน้าที่ทั้งที่ยังไม่ตายดาราหนัง รวมทั้งผู้กำกับ โดยนี่ได้ผลสำเร็จหน้าที่ดูแลชิ้นแรกของ หวางเป่าเฉ ร่วมกับทีมเขียนบทอีก 5 คน ด้วยความยาวหนังกว่า 2 ชั่วโมง

นับว่าเป็นงานที่ท้าความรู้ความเข้าใจของ หวางเป่า สำหรับการก้าวสู่การเป็นผู้กำกับหนังเต็มตัวเลยทีเดียวเรื่องราวเล่าถึงหนุ่มใหญ่อย่าง หม่าจิน บุคลากรซอมซ่อของบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกรางวัลหวย 60 ล้านหยวน ช่วงเวลาที่เขารวมทั้งกรุ๊ปเพื่อนฝูงพนักงานบริษัทกำลังเดินทางข้ามเกาะด้วยเรือ เพื่อไปประชุมสัมมนา แม้กระนั้นแล้วจู่ๆก็มีข่าวสารว่าอุกกาบาตกำลังพุ่งเข้าทำลายโลก

พร้อมทั้งคลื่นสึนามิกระหน่ำเข้าใส่เรือ พัดพาให้หม่าจิน แล้วก็สหายพนักงานทั้งยัง 30 คน ติดอยู่บนเกาะร้าง ทุกคนอุตสาหะทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะเอาตัวรอด ในขณะที่ หม่าจิน ที่พึ่งจะถูกรางวัลใหญ่ ก็มานะทุกวิธีทาง ที่จะกลับไปปรับเงินให้เพิ่มขึ้นรางวัลให้ได้ภายใน 90 วัน The Island เกมเกาะท้าดวง เป็นหนังแฟนตาซีเฮฮาร้าย ที่มีการเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

ด้วยโลเคชันส่วนมากที่อยู่บนเกาะ กับความยาวหนังกว่า 2 ชั่วโมง แต่ว่าหนังแทรกสอดทั้งยังความตลก ดราม่า แฟนตาซีแบบที่จู่ๆก็ใส่เข้ามา ซึ่งโน่นจัดเป็นความรื่นเริงที่สามารถดูได้ไม่เบื่อเลยส่วนที่ชอบมากที่สุด คือ พัฒนาการของนักแสดง ที่จากดีเปลี่ยนเป็นร้าย จากร้ายเปลี่ยนเป็นดี รวมถึงบทที่มีความขำขันจริง รวมทั้งตลกร้ายใส่เข้าไป จำต้องบอกเลยว่าเป็น 2 ชั่วโมง

ที่เพลินมากๆและก็ หมัดเด็ดของหนังประเด็นนี้ คือการสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับการบ้านการเมืองแล้วก็จิตวิทยาในการเอาชีวิตรอดของคน ในคราวที่จำต้องพบเจอกับความทุกข์ยากลำบากเอาไว้อย่างแยบคายอีกด้วยด้านนักแสดงที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยเป็น หวางเป่า ผู้แสดงที่ผันตัวมาจับงานกำกับหนังทีแรก จำต้องบอกเลยว่าเขาทำเป็นดีเยี่ยมๆทั้งในพาร์ทการแสดงรวมทั้งการควบคุม

ในเรื่องยังได้นางเอกสาวเซ็กซี่สตาร์ตลอดกาลอย่าง ซูฉี มารับบทด้วย งานนี้แม้ว่าจะไม่ห่วงสวย อีกทั้งรูปร่างและการแต่งตัวจะมอซอแค่ไหน ก็ทำอะไรเธอคนนี้ไม่ได้จริงๆโดยรวมแล้ว The Island เกมเกาะท้าทายดวง นับว่าเป็นหนังตลกร้าย ที่มีแถมความแฟนตาซีในเรื่องของชะตาชีวิตเข้ามาน้อย โดยการเล่าเรื่องของหนังตลอด 2 ชั่วโมงกว่า สามารถมองได้เพลิดเพลินๆไม่น่าเบื่อ และหนังยังสอดแทรกแง่คิดทั้งการบ้านการเมืองและจิตวิทยาการเอาตัวรอดของมนุษย์เข้าไปด้วยอย่างมีกลเม็ดเด็ดพราย

สิ่งที่จิม เพรสตันตัดสินใจทำ (ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย) กับการปลุกออโรร่า

นักประพันธ์สาวที่มีจุดมุ่งหมายสำหรับในการเดินทางไปยังดาวอาณานิคมใหม่ตรงเวลาหนึ่งปี เพียงเนื่องจากคุณต้องการจะไปบันทึกเรื่องราว เรียบเรียงรวมทั้งเดินทางกลับมายังดาวโลก เป็นอีกหนึ่งแนวความคิดที่น่าสนใจ เนื่องด้วยระยะเวลาในการเดินทางไปกลับนั้นใช้เวลาถึง 120 ปีร่วมกัน ซึ่งก็กล่าวได้ว่า ในขาไปออโรร่าจำเป็นจะต้องกล่าวลาคนรู้จักกันบนโลก

เนื่องจากกว่าคุณจะตื่นขึ้นที่ดาวดวงใหม่ ผู้ที่เธอเคยรู้จักก็คงจะตายกันหมดแล้ว เหมือนกับเดียวกันกับทริปเที่ยวกลับสิ่งที่ทำให้ผู้แสดงอย่างออโรร่ารู้สึกโกรธ ฟูมฟาย และพยาบาทสิ่งที่จิมทำ เพียงแต่เพราะเหตุว่าอารมณ์ชั่ววูบ รวมทั้งแน่นอนว่ามันเป็นการละเมิดชีวิตของผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัดและก็ไร้คำแก้ตัวใดๆแต่เมื่อมองในอีกมุมหนึ่งพวกเราจะพบว่า

โดยความเป็นจริงแล้วคนอย่างออโรร่าที่น่าจะมีจิตวิญญาณของแฟนอิสรเสรี เธอปรารถนาที่จะบันทึกความทรงจำครั้งใหม่ ณ อาณานิคมที่ใหม่ ออกไปเผชิญโลกกว้าง ทำความเข้าใจของใหม่ๆทำให้เมื่อหนังดำเนินไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่ยานสตาร์ชิป อวาลอนกำลังอยู่ในสถานการณ์วิกฤติแล้วก็บางทีก็อาจจะระเบิดพังพินาศไปในอวกาศโดยไม่ไปถึงจุดหมายปลายทาง

การตัดสินใจของออโรร่าเพื่อร่วมมือกับจิม สำหรับในการกู้ยานจึงกลายเป็นความต้องการที่ทำให้ทั้งคู่กลับมาประสานรอยร้าวกันอีกครั้ง และเพื่อที่ทั้งสองคนจะได้มีชีวิตต่อไป ขั้นต่ำก็บนยานลำนี้ เพื่อได้ “ดำรงชีวิต” ที่พวกเขายังเหลืออยู่ทั้งปวงทั้งปวงพวกเราจะเห็นได้ว่าการ “ตกลงใจ” ของนักแสดงล้วนแต่เป็นหนทางสำหรับการดำเนินชีวิต

ไม่ว่าจะเป็นการปลุกหญิงไม่รู้จักบนยานอวกาศ หรือการถือโทษโกรธเคืองของออโรร่าต่อจิม กระทั่งผลสรุปที่นักแสดงทั้งคู่ตัดสินใจแบบในตอนจบของเรื่อง กลุ่มนี้ทำให้พวกเราเห็นว่า “ในการเดินทางครั้งสุดท้าย” ของแต่ละคนนั้น บางคราวเราบางครั้งอาจจะไม่มีจังหวะเลือกตอนสุดท้ายได้ดังใจ แม้กระนั้นระหว่างทางของการมีชีวิตอยู่นั้น พวกเราปั้นเรื่องราวให้กับคนรุ่นหลังจำเรายังไง คงจะสลักและสำคัญกว่า

รีวิวหนัง Green book กรีนบุ๊ค – หนังฟิลกู๊ดที่บอกถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนมนุษย์ที่โคตรต้องใจ

Green book กรีนบุ๊ค หนังผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ 3 รางวัลในสาขาภาพยนตร์ดีเยี่ยมที่สุด , สมทบชายยอดเยี่ยม และก็ บทภาพยนตร์เริ่มแรกดีที่สุด ประจำออสการ์ปี 2018 และ 3 รางวัล ลูกโลกทองคำ ในสาขาบทภาพยนตร์ดี , ภาพยนตร์ดีที่สุด ในประเภทเพลงหรือตลก แล้วก็ปิดท้ายด้วย สมทบชายเยี่ยมนะครับ Green book กรีนบุ๊ค หนังที่อ้างอิงมาจากความเป็นจริงของนักดนตรีผิวสีอย่าง

ดอน เชอร์ลีย์ กับคนขับของเขาชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียนอย่าง โทนี ลิป ที่ย้อนกลับไปในปี 1930-1960 ที่คนผิวสีในอเมริกานั้นจำเป็นต้องพกหนังสือที่ชื่อว่า “The Negro Motorist Green Book” หรือเรียกสั้นๆว่า “Green Book” ที่เป็นราวกับหนังสือไกด์ชี้แนะร้านอาหาร รีสอร์ท หรือสถานที่ที่ต้อนรับคนผิวสีในตอนนั้น เพราะเหตุว่าเวลานี้มีการดูถูกผิวที่ร้ายแรงมากถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มีในการเดินทางไปทั่วอเมริกาเพื่อทำแสดง

แต่ในสมัยนั้นมีการแบ่งผิวที่ร้ายแรงแทบทั่วอเมริกาหนังประเด็นนี้กำกับโดยปีเตอร์ ฟาร์เรลลี จากภาพยนตร์ตลกอย่าง Dumb and Dumber (1994) แล้วก็นำแสดงโดยดาราหนังอย่าง วิกโก้เก๋ มอร์เทนเซน โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย ล่าสุด ผู้เข้าร่วมแข่งขันสองรางวัลออสการ์จาก Eastern Promises, Captain Fantastic ร่วมด้วย มาเฮอร์ชาลา อาลี ผู้ครอบครองรางวัลออสการ์จาก Moonlight Green book

กรีนบุ๊ค จะกล่าวถึงรายละเอียดของ สองคู่ซี้ต่างขั้วด้ามจับผลัดจับผลูตรวจตราเดินทางไปทั่วตอนใต้ของอเมริการ่วมกัน “โทนี่ ลิป” (วิกหรูหรา มอร์เทนเซน) พี่ล่าขาใหญ่เชื้อสายอิตาเลียน-อเมริกันจากย่านบรองซ์ในนิวยอร์ก จะต้องมาเป็นคนขับรถให้ “ดอน เชอร์ลีย์” (มาเฮอร์ชาลา อาลี) นักเปียโนคลาสสิคผิวสีระดับนานาชาติ ระหว่างที่เขาออกเดินสายขึ้นแสดงในสมัย 60 สิ่งเดียวที่นำทางทั้งคู่คือ “สมุดปกเขียว”

ที่บอกสถานที่ที่เป็นมิตรกับชาวผิวสี พวกเขาจะต้องฝ่าอีกทั้งกำแพงแห่งสีผิว ภัยอันตรายต่างๆเช่นเดียวกับความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนมนุษย์สำหรับในการเดินทางครั้งสำคัญนี้ Green book กรีนบุ๊ค จำต้องบอกเลยว่าเป็นเยี่ยมในหนังที่คุณไม่สมควรพลาด บวกกับการที่หนังถือเอาเรื่องจริงมาเล่ายิ่งทำให้มีความน่าสนใจขึ้นไปอีก การเล่าเรื่องของหนังโดยมากจะโฟกัสไปที่มิตรภาพระหว่างคนสองผู้ที่ต่างสีผิวกัน

ที่อีกทั้งเรื่องพวกเราจะได้เห็นทั้งคู่ต่อบทกันอย่างบ้ารวมทั้งซ่อนเร้นไปด้วยความขำขัน ที่ผู้ชมไม่มีเบื่อแน่ๆแม้กระนั้นสิ่งจำเป็นของหนังอาจจะต้องยกให้เป็นการดูถูกผิวขอรับซึ่งมันทำให้คนดูอย่างเรานั้นรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้ง ยิ่งในฉากที่ ดร.ดอน เชอร์ลีย์พูดว่า “คนขาวก็ดูผมเป็นเพียงแค่ไอ้มืดคนหนึ่ง ส่วนคนผิวสีผู้อื่นก็ไม่รับผม ด้วยเหตุว่าผมมันแตกต่าง”

ยิ่งทำให้พวกเราเข้าใจในเรื่องความรู้สึกสันโดษของนักแสดงมากขึ้นไปอีก บอกเลยว่าหนังที่ทำผู้ชมอินตามได้ตลอดทั้งเรื่องเลยล่ะส่วนการแสดงของดาราหนังนั้นบอกเลยว่าสุดยอดทั้งสองนะครับสมกับรางวัลที่ได้มาจริงๆชอบความน่ารักของทั้งคู่มาก ที่ดูแล้วต้องยิ้มออกมาตลอดเวลาที่ทั้งคู่นั้นเถียงกันข้างในเรื่อง ชอบที่หนังสื่อความหมายถึงคำว่ามิตรภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆนะครับ

ทำแอดหัวตาคลอไปเลย ส่วนตอนกึ่งกลางถึงด้านหลังเรื่องบอกเลยว่าเป็นหนังที่ให้อารมณ์ฟิลกู๊ดมากๆเลยครับ ที่แบบดูจบแล้วยิ้มไม่หุบกันอย่างยิ่งจริงๆ กับหนังเรื่องนี้ Green book กรีนบุ๊ค Green book กรีนบุ๊ค หนังฟิลกู๊ดสไตล์โรดทริปที่โคตรแฮปปี้ รายละเอียดสุดชอบใจ เพิ่มพลังบวกให้กับผู้ชม มากับบทที่สุดแสนจะเฉียบคมและความตลกขบขันที่โคตรเรียล แถมตอนจบทำคนดูซึ้งกระทั่งน้ำตาคลอหน่วยอย่างแน่นอนชูให้เป็นเลิศในหนังที่คุณไม่สมควรพลาด

กลับสู่หน้าหลัก https://bri-chan.com/