ดูหนัง The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ เต็มเรื่อง เป็นมากกว่าจอเงิน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีผลกระทบทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง จุดประกายให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับขอบเขตของความสยองขวัญและผลกระทบทางศีลธรรมของเนื้อหา ผู้ชมบางคนพบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่ากังวลมากจนมีรายงานว่าพวกเขาเป็นลมหรือป่วยทางร่างกายในระหว่างการฉาย ซึ่งเพิ่มความอื้อฉาวให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มศาสนาที่มีความกังวลเกี่ยวกับการแสดงภาพการไล่ผีและความเหนือธรรมชาติ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “The Exorcist” ได้รับการเผยแพร่อีกครั้งในรูปแบบต่างๆ รวมถึงภาพตัดของผู้กำกับ และอิทธิพลของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีต่อภาพยนตร์สยองขวัญยังคงไม่อาจปฏิเสธได้ มันปูทางไปสู่ภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติรุ่นหนึ่งที่สำรวจดินแดนอันมืดมนของจิตใจมนุษย์และสิ่งเหนือธรรมชาติ
ดูหนัง The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ เต็มเรื่อง
แฟรนไชส์ยังขยายออกไปด้วยภาคต่อและภาคก่อนหลายภาค แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถจับภาพความหวาดกลัวและผลกระทบที่แท้จริงของภาคดั้งเดิมได้ก็ตาม ดูหนัง The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ เต็มเรื่อง ได้รับการดัดแปลงเป็นสื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้งหนังสือ ซีรีส์ทางโทรทัศน์ และแม้แต่ละครเวที ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าดึงดูดและความหลงใหลของผู้ชมมายาวนาน
ในประเทศไทย “หมอผีเอ็กเซลซิสต์” ได้ทิ้งร่องรอยไว้ให้กับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องสยองขวัญอย่างไม่มีวันลบเลือน เช่นเดียวกับที่ทั่วโลกทำ ความสามารถเหนือกาลเวลาของภาพยนตร์เรื่องนี้ในการกระตุ้นให้เกิดความกลัว ความตกใจ และกระตุ้นให้เกิดความคิดอันลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของความชั่วร้ายและจิตวิญญาณของมนุษย์ ทำให้มั่นใจได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะยังคงหลอกหลอนและดึงดูดผู้ชมต่อไปจากรุ่นต่อ ๆ ไป
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหนังสยองขวัญผู้ช่ำชองหรือเพิ่งเริ่มรู้จักแนวนี้ “The Exorcist” (1973) ยังคงเป็นภาพยนตร์คลาสสิกที่ต้องดู ซึ่งจะทดสอบขีดจำกัดของคุณ และทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจเป็นเวลานานหลังจากเครดิตหมด ในอาณาจักรแห่งภาพยนตร์สยองขวัญ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่โดดเด่นและสร้างความไม่สบายใจ และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีต่อผู้ชมชาวไทยและต่างประเทศ
ดูหนัง The Exorcist (1973) หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ เต็มเรื่อง เป็นหนังเก่าแบบงี้แต่ว่า The Exorcist ก็ยังปฏิบัติหน้าที่สร้างความขนหัวลุกได้ดังเดิม ที่เสริมเติมเป็นกลิ่นของความคลาสสิกของหนังสมัย 70s ความสยองขวัญของ The Exorcist เวอร์ชันแรกนี้ยังประกันประสิทธิภาพด้วยการเป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ดีเยี่ยมที่สุด
เรื่องราวที่มีเค้าเรื่องมาจากความจริงของ The Exorcist
เล่าถึงเรื่องของเด็กหญิงที่ถูกวิญญาณร้ายสิง กระทั่งครอบครัวจำเป็นต้องวิงวอนจากนักบวชให้ช่วยขจัดปัดเป่าวิญญาณที่ครอบครอง ความน่าขนลุกปรากฏอยู่อย่างแจ่มแจ้งในฉากพิธีการไล่ผีแต่ละครั้งที่ไม่ว่านักบวชจะทำเช่นไรก็ดูราวกับว่าผีจะทำลายผู้ครอบครองร่างหนักขึ้นเรื่อยจนกระทั่งทำให้หลายฉากในเรื่องเปลี่ยนเป็นต้นแบบของหนังสยองขวัญในสมัยถัดมา ยิ่งไปกว่านี้ รายละเอียดของเรื่องยังแอบแฝงการท้าความเชื่อถือในหลักศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นใจความสำคัญที่คนทำหนังในสมัยนั้นไม่กล้าพูดถึงกันเท่าไรนัก
ในวาระที่หนังครบรอบ 50 ปี ก็เลยจะต้องมีการเฉลิมฉลองกันซะหน่อย หนังสยองขวัญสุดคลาสสิกระดับตำนาน ที่สำเร็จหน้าที่เขียนบทของ วิลเลียม ปีเตอร์ กางลตตี้ ผู้เอารางวัลออสการ์ ช่วงเวลาที่ วิลเลียม ฟรีดคิน ผู้กำกับเอง ก็ได้เข้าชิงบนเวทีนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
การได้ดูหนังประเด็นนี้ในโรงนับว่าเป็นช่องทางที่ดีอย่างมาก แถมยังจะเป็นการได้ดูหนังเวอร์ชันที่ยาวกว่าธรรมดา มีฉากเพิ่มเข้ามา ที่เขากล่าวว่าเป็นฟุตเทจที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อน แม้กระนั้นสำหรับคนพึ่งจะมองทีแรก อย่างไรก็ไม่เคยมองเห็นสักฟุตเทหน้าจอปิ้งแน่ๆ
เรื่องย่อหนัง ‘The Exorcist (1973)เรื่องราวของ คริส แมคนีล (Ellen Burstyn) แม่ผู้โลดแล่นอยู่ในแวดวงสนุกสนาน คุณอุปถัมภ์ค้ำชูบุตรสาววัยสิบสองขวบอย่าง เรแกน (Linda Blair) มาคนเดียวข้างหลังสูญเสียผัวที่รักไป แม้กระนั้นดูเหมือนจะเป็นไปไม่ค่อยดีนัก เรแกนเปลี่ยนเป็นเด็กขี้เหงาที่จำต้องหันไปพึ่งพาอาศัยบอร์ดผีถ้วยแก้ว รวมทั้งถัดมา เรแกนก็เริ่มจะเจอกับเรื่องแปลกบางสิ่ง คุณฟ้องแม่ว่าเตียงของตัวเองสั่นอย่างไม่ปกติ อีกทั้งมีความประพฤติแปลกๆมากเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ทำให้คริสเริ่มมองหาความช่วยเหลือเกื้อกูลจากเหล่าหมอ
เรื่องราวใน The Exorcist ไม่สลับซับซ้อนเลย หนังสร้างมาจากหนังสือที่อ้างอิงจากความเป็นจริง กล่าวถึงเด็กหญิงวัย 12 ปี เค้าหน้าสวย ชื่อ เรแกน (แสดงโดยศิลปินเด็ก ลินดา กางลร์) ที่ถูกภูติผีสิง หนังแทบจะทั้งยังเรื่องคือเรื่องของการไล่ผีโดยนักบวชสองรูปสองวัย ที่ใช้วิธีขั้นตอนการต่างๆทั้งยังข่มขู่อีกทั้งปลอบประโลม อีกทั้งไม้แข็งไม้อ่อน ทั้งยังสวดมนตร์ภาวนารวมทั้งข่มขู่
แต่ว่าเพราะว่าผีที่สิงเมแกนช่างทารุณไร้มนุษยธรรมและก็เป็นอวตารของภูติผีปีศาจจากนรกอันป่าเถื่อน นักบวชทั้งคู่รูปพบว่า พลังของบทสวดมนตร์ พลังของศาสนจักร แล้วก็พลังที่เชื่อถือทั้งหลายที่พร่ำบ่นกันมาว่าเอาชนะความเถื่อนทุกสิ่งทุกอย่างได้ กลับไม่สามารถที่จะทำขจัดปัดเป่าผีร้ายให้ออกจากร่าง
ไม่แม้กระทั้งจะมีผลให้มันเคือง ปีศาจร้ายทำร้ายเมแกนแบบวายป่วง อีกทั้งทำให้เค้าหน้าคุณเหลวราวกับศพ ทำให้คุณพ่นมูกเขียวใส่คนที่อยู่รอบข้าง บิดหัว หักคอ ชนคุณกับเตียง รวมทั้งทำการดูหมิ่นไม้กางเขนอย่างอุจาดตา ฉากผีสิงเรแกนที่หนังออกแบบมาให้ละเอียด เป็นเยี่ยมในปัจจัยที่หนังโดนแบนจากหลายประเทศ ทำให้หนังโจษจันและก็ถึงกับขนาดถูกเห็นว่าเป็นหนังต้านทานศาสนาและก็ยกย่องพลังของผีห่าปีศาจร้าย ฉากพวกนี้เป็นฉากที่ทำร้ายจิตใจผู้ชมขี้กลัวอย่างที่หนังผียุคใหม่ยังทำเป็นไม่ดิบและไม่แรงเท่า
The Exorcist เป็นภาพยนตร์ที่ผมจำได้ว่าเคยรับดูจาก UBC
ม้วนวีดีโอ ซีดี ดีวีดี คงจะหลายรอบอยู่ Biogaming147 คุ้นๆเป็นหนังที่มองยาก ไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดแต่ว่าหลอนชิบหาย, รับดูรอบนี้รู้เรื่องเลยว่าความยากเกิดขึ้นจากอะไร และก็ไฮไลท์ครึ่งชั่วโมงในที่สุด ยังมีความทรงอำนาจ ขนลุกขนพอง อกสั่นขวัญหนี เป็นประสบการณ์ที่ทำเอาผมแทบจะนอนไม่หลับ แล้วผู้ชมยุคนั้นไม่ป่วยไข้ คลุ้มคลั่งตายกันหรอกหรือ
ทดลองรับดูแบบอย่างหนัง Teaser Trailer ต้นฉบับแท้ๆเมื่อปี 1973 ที่ถึงไม่มีการเปิดเผยอะไรเลย แต่ว่าหลายโรงหนังห้ามฉายเนื่องจากว่ามีความน่าขนพองสยองเกล้าเหลือเกิน ‘too frightening’ ขอเตือนกับคนขี้กลัวเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อม
ปี 2516 เริ่มรวมทั้งสิ้นสุดลงด้วยการร่ำไห้ด้วยความเจ็บ เริ่มด้วยเพลง “Cries and Whispers” ของอิงมาร์ เบิร์กแมน และก็จบท้ายด้วย “The Exorcist” ของวิลเลียม ฟรีดกิน ภาพยนตร์ทั้งคู่เรื่องเกิดเรื่องเกี่ยวกับลักษณะอากาศของจิตวิญญาณมนุษย์ และไม่มีภาพยนตร์สองเรื่องที่จะผิดแผกแตกต่างไปกว่านี้อีกแล้ว
แต่ว่าแต่ละอย่างกลับบังคับให้พวกเราดูเข้าไปด้านใน เจอกับความสยองขวัญ แล้วก็เจอหน้ากับข้อเท็จจริงของความเจ็บปวดทรมานของคนเรา ภาพยนตร์ของเบิร์กแมนเป็นภาพยนตร์คลาสสิกเกี่ยวกับมนุษยนิยม ภาพยนตร์ฟรีดคินคือการใช้คุณประโยชน์จากทรัพยากรที่น่าสยดสยองที่สุดของภาพยนตร์ โน่นมิได้ทำให้ชั่วช้า แต่ว่าก็มิได้ทำให้ทรงเกียรติเช่นเดียวกัน
ภาพในหนังบางทีก็อาจจะมองร้ายแรง แล้วก็ยิ่งร้ายแรงเพราะว่าเหยื่อในที่นี้เป็นเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำอีก (นักเขียนมั่นใจว่า หนังประเด็นนี้คงจะสร้างในปัจจุบันนี้มิได้ ด้วยค่าความนิยมในสังคมอเมริกาที่แปรไป) แม้กระนั้นสิ่งที่ร้ายแรงมากกว่าภาพที่พวกเรามองเห็น เป็นการที่หนังทำให้มองเห็นความผิดพลาดของเลื่อมใส รวมทั้งตัดรอนฐานรากของความเชื่อถือในศาสนาคริสต์จนกระทั่งกะปลกกะเปลี้ยพิการ
เมื่อนักบวชทั้งคู่หมดทางหนีรวมทั้งกลายเป็นเบี้ยล่างให้กับพลังดึกดำบรรพ์ที่ควบคุมมิได้ อเมริกาในปี 1973 ที่หนังออกฉาย ยังเป็นตอนๆเวลาของความซวดเซด้านศีลธรรม เมื่อความโหดร้ายทารุณในลักษณะต่างๆถูกแสดงออกให้เห็นตำตา ทั้งยังคดี Watergate ของผู้นำนิสัน ทั้งยังความทารุณไร้มนุษยธรรมของการทำศึกเวียดนาม อีกทั้งความวิตกต่ออาชญากรรมแล้วก็อำนาจมืดต่างๆแล้วก็สภาพสังคมที่ยังหาแสงไฟไม่พบ กลุ่มนี้ทำให้ปีศาจร้ายใน The Exorcist เป็นตลอดปีศาจจริงๆรวมทั้งเป็นภาพแทนของความเสื่อมถอยทางด้านศีลธรรมที่แม้กระทั้งบรรพชิตรวมทั้งศาสนาซึ่งน่าจะเป็นผู้ไถ่คืนจ่ายบาป กลับไม่มีพลังความรู้ความเข้าใจ ล้มเหลวแม้กระทั้งในความอุตสาหะจะช่วยเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง
Blatty มีชื่อเลื่องลือจากการเขียนนิยายเรื่อง The Exorcist (1971)
ที่ได้แรงดลใจมาตั้งแต่ครั้นเมื่อเป็นนิสิตอยู่ Georgetown University เมื่อปี 1949 อ่านเจอบทความหนึ่งในหนังสือพิมพ์ Washington Post เด็กผู้ชายชาวเยอรมันวัย 14 ปี Roland Doe หรือ Robbie Mannheim อาศัยอยู่ที่ Cottage City, Maryland เจอพบเห็นเรื่องแปลกโดยไม่รู้ต้นเหตุ เช่น เตียงสั่นเป็นเจ้าเข้า, โซฟาเลื่อนไปๆมาๆเองได้, ตัวหนังสือนูนขึ้นมาจากท้อง ฯ
ว่ากันว่าจุดเริ่มของเรื่องนี้ มาจากป้าคนหนึ่งที่เป็นคนทรงเจ้า ชี้แนะให้ Roland รู้จักเล่นกับผีถ้วยแก้ว (Ouija) แล้ววันดีคืนดีป้ามึงก็เสียชีวิตทันทีทันใด ทำให้ Roland บากบั่นใช้บอร์ดผีถ้วยแก้วติดต่อและทำการสื่อสารเสวนา จนถึงส่งผลให้ถูกวิญญาณร้ายสิง ซึ่งดูแล้วก็มีลักษณะท่าทางสูงมว๊ากๆว่าจะเป็นวิญญาณของป้ามึงเองนั่นแหละที่เข้ามาสิงเด็กผู้ชาย
ครอบครัวตกลงใจขอความเห็นนักบวช Luther Miles Schulze ที่ได้อาศัยอยู่ในห้องของเด็กผู้ชายตลอดทั้งคืน เฝ้าพินิจประสบพบเห็นปรากฎการณ์ต่างๆอันน่าอัศจรรย์ ทำให้ได้บทสรุปว่ามีสาเหตุจากผีเข้าสิงร่าง ยื่นเรื่องต่อ Catholic Church เพื่อประกอบพิธีไล่ผี (Exorcism) ซึ่งก็ทำอยู่บ่อยมากแม้กระนั้นไม่เป็นผลสำเร็จ จวบจนกระทั่งได้เจอกับหลวงพ่อ Raymond J. Bishop คุณครูสอนที่ St. Louis University ร่วมกับหลวงพ่ออีกคน William S. Bowdern สามารถไล่วิญญาณร้ายได้เสร็จ
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ภาพยนตร์เข้าฉายหนแรกในสหรัฐช่วงวันที่ 26 ธ.ค. คริสต์ศักราช 1973 ผู้เผยแพร่หมายถึงวอร์เนอร์บรอคอยส. พื้นฐานมีโรงหนังเพียงแต่ 26 ที่ทั่วทั้งประเทศยอมเอามาฉาย แม้กระนั้นเมื่อฉายไปก็ได้รับความชื่นชอบเร็วนี้ๆ มีรายได้ทั้งโลกกว่า 441 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แปลงเป็นหนึ่งในรูปภาพยนตร์ที่มีรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอะแคเดมีถึง 10 สาขา ชนะมา 2 สาขาเป็นบันทึกเสียงเยี่ยมยอด กับบทภาพยนตร์ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขดีที่สุด อีกทั้งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกที่ได้เข้าชิงรางวัลดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วในสาขาภาพยนตร์ดีที่สุด45
ภาพยนตร์นี้สร้างอิทธิพลอันสำคัญต่อวัฒนธรรมแฟชั่น67 งานประพันธ์จำนวนไม่น้อยชูให้เป็นเลิศในรูปภาพยนตร์สยองขวัญดีเลิศที่สุดนิรันดร5 เป็นต้นว่า ใน คริสต์ศักราช 1999 เอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี จัดให้เป็นภาพยนตร์ที่น่าขนลุกที่สุดตลอดไป8
ครั้นเมื่อวันที่ 22 เดือนมกราคม คริสต์ศักราช 2016 ทเวนตีเซนจูรีฟอกซ์เทเลวิชัน (20th Century Fox Television) แถลงว่า กำลังถ่ายทำละครชุดปรับเปลี่ยนจากภาพยนตร์หัวข้อนี้เพื่อออกฉายทางโทรทัศน์9 ละครดังที่กล่าวมาข้างต้นนำออกเผยแพร่ช่วงวันที่ 23 เดือนกันยายน คริสต์ศักราช 2016