ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา

ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา

ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา

ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา ประเด็นของเรื่องถือว่าใช้ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องของการพูดถึงพลังวิเศษที่เชื่อมโยงกับอาการทางด้านจิตซึ่งมันมีความอุตสาหะจะอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ การเป็นซูเปอร์วีรบุรุษจำต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยอะไรบ้าง ไม่เหมือนกันของผู้ที่มีพลังดีเลิศเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่นกับรังควานคนอื่นๆ ดูหนัง ปริศนาพลังฮีโร่ การมองว่าพลังฮีโร่นั้นเป็นคำสาป แล้วก็การยอมรับที่จะเป็นตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมซึ่งพอเพียงเป็นภาพยนตร์ฝรั่งเศสมันก็จะมีความแปลกใหม่หน่อยๆตรงประเด็นมันจะถูกพรีเซนเทชั่นแบบให้เก็บรายละเอียดของโลก ไม่ได้บอกคนดูแบบโต้งๆแต่ว่าให้พวกเราตรวจสอบผ่านตัวละครแล้วก็ปมของผู้แสดง ที่โชคร้ายคือช่วงท้ายเรื่องมองพากเพียรจะโชว์ว่านี่เป็นหนังวีรบุรุษรวมทั้งจบลงแบบง่ายๆตามสูตรสำเร็จของหนังฮีโร่ โดยที่มันไม่ได้บิวต์อารมณ์หรือแรงขับเคลื่อนมากพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหรือยังยังไง ทั้งๆที่เงื่อนอะไรมันน่าสนใจเอามากๆแม้กระนั้นผู้แสดงบางตัวที่ดูจะเป็นประโยชน์อะไรแต่ก็มิได้มีอะไรสะดุดตามากราวกับที่หนังมานะพรีเซ็นท์ ยกตัวอย่างเช่นผู้แสดงเด็กหญิงที่ปูมาว่ามีพลังวิเศษ แต่ดันกลายเป็นนักแสดงที่สำคัญเพียงแค่ในทางที่ตัวร้ายอยากได้พลังและถูกจับตัวไปจนถึงจบเรื่อง ในส่วนของคอสตูมฮีโร่ก็มองโก้เก๋ในแบบประเทศฝรั่งเศส มองอินเตอร์ด้วย

The Croods: A New Age

ก้าวผ่านสู่ยุคใหม่แก๊งค์เดอะครู้สในบรรดาหนังแอนิเมชั่น ค่ายดรีมเวิร์คส์แอนิเมชั่น ผมนี่คอยภาคต่อของ The Croods 2013 อย่างมากมายว่าเมื่อใดจะมาซักที เนื่องจากส่วนตัวเองออกจะหลงใหลหนังเรื่องที่ ที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่ความขำขันแม้กระนั้นมันยังแถมท้ายด้วยการส่งต่อความรู้ความเข้าใจ

ความห่วยแตกใยของสายสัมพันธ์ครอบครัว เป็นอนิเมชันของดรีมเวิร์คส์ อันดับหนึ่งที่ผมชูตำแหน่งให้เลย โดยที่เวลานี้ผ่านมา 7 ปี แก๊งค์เดอะครู้ส ได้กลับมาอีกรอบเรื่องราวในภาคนี้ก็สืบต่อการเดินทาง ภายหลังที่ครอบครัวครู้ส ได้หลุดพ้นออกจากกรอบเดิมๆ(ที่ชอบอาศัยอยู่แต่ว่าด้านในถ้ำ)

ได้ออกเดินทางเพื่อค้นหา พรุ่งนี้ สถานที่ๆเต็มไปด้วยความคาดหวัง ของกิน และก็ความปลอดภัย เหมาะกับการลงหลักปักฐาน ให้เป็นบ้านจริงๆของครอบครัวนี้ซักที ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา โดยในระหว่างทางก็ได้เผชิญกับสัตว์ร้ายต่างๆจำนวนมาก แต่ก็ทั้งผองก็รวมพลังเอาตัวรอดมาจนได้มาเจอกับกำแพงไม้อันใหญ่มโหฬาร

ที่ซึ่งพอผ่านหลังกำแพงไป เป็นดินแดนที่แสนอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ไม่มีอันตราย เป็นที่ๆราวกับ วันพรุ่ง ในอุดมคติเป็นที่สุด แม้กระนั้นดินแดนนี้ก็มีอีกครอบครัวนึงเป็นเจ้าของอยู่แล้ว เป็นครอบครัวดีงาม (ผู้ซึ่งเป็นครอบครัวแรกที่เริ่มการทำฟาร์มต่างๆเลี้ยงตัวเอง) แล้วก็เหล่าครอบครัวครู้สจำเป็นต้องศึกษาที่จะปรับพฤติกรรมใช้ชีวิตสไตล์ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยจะว่าไปแล้วการกลับมาของครอบครัวครู้สครั้งนี้

ค่อนข้างจะที่จะไม่ราวกับที่คาดหวังไว้ซักเท่าไหร่ เพราะเหตุว่าด้วยที่ภาคแรกนั้นมีความกลมกล่อมสำหรับในการเล่าเรื่องอย่างใหญ่โต ตรงข้ามในภาค 2 นี้ได้มีการเปลี่ยนโทนการเล่าเรื่อง ที่ทวีคูณความ “กาว” แล้วก็บ้าระห่ำของตัวบทมากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่ สัตว์ดึกดำบรรพ์ใหม่ๆที่เกินคาดถึงจริงๆแต่ก็ยังดีที่ความ

กาว ที่ใส่เข้ามา มันทำให้ตัวหนังไม่ซ้ำทางเดิมและยังคงความสนุกสนาน ความฮาในแบบที่ภาคแรกก็ยังทำเป็นไม่ถึง เปลี่ยนเป็นผมค่อนข้างจะที่จะปรับทับจิตใจในภาคนี้อยู่ไม่น้อย ก็ยังนับว่าเป็นภาคต่อที่มองได้เพลิดเพลินๆสนุกสนานอยู่ทีเดียว 8.5/10

รีวิวหนัง(มองฟรี) THE NURSERY (2016) เนอสเซอปรี่เลี้ยงผี – หนังแนวกินมนุษย์ ที่คนชอบดูหนังผีจำต้องลองดู

THE NURSERY เนอสเซอรี่เลี้ยงผี เป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนสร้างมาจากจีน ที่ได้ผู้กำกับคนประเทศไทยอย่าง พัชนนท์ ธรรมจิรา ผ่านผลงานกำกับหนังสยองขวัญอย่างเรื่อง วัวลิค เด็กเห็นผี (2006) และ ตีสาม 3D ตอน เกศาสยอง (2012) นำแสดงโดย จูอี้หลง และนักแสดงสาวจากช่อง 7 สี อย่าง มิน พีชญา วัฒนามนตรี THE NURSERY เนอสเซอปรี่เลี้ยงผี เริ่มเรื่องในช่วงปลายราชวงศ์หยวน ผู้คนนิยมรับประทานเนื้อกันอย่างมากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อของทารก หมู่บ้านหลินดาย ที่อยู่ชิดกับแม่น้้าฮวาย ได้รับความเดือดร้อนจากเหล่าทหารที่เคลื่อนทัพผ่านมาและก็เข้ายึดหมู่บ้าน ในคืนนั้นเอง ทหารได้จับเด็กแรกเกิดในหมู่บ้านมาทำเป็นของกินเลี้ยงกองทัพ จากนั้นเหล่าบรรดาแม่ที่สูญเสียลูก ก็เลยทำพิธีเรียกวิญญาณของทารกที่โดนฆ่าให้กลับมาเอาคืน

ผ่านไปหลายร้อยปี เหมิง เส้าฮุย ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา ช่างวาดเขียนชายหนุ่มผู้ซึ่งเกิดในหมู่บ้านหลินถาง แต่ว่าได้ย้ายออกมาอยู่เมืองใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยการที่เค้าความจำเสื่อมบางสิ่งในวัยเด็กไป ทำให้เขาตกลงใจกลับไปที่หมู่บ้านหลินดาย เพื่อตามหาความจริง โดยมี เหย่ จื่อเฟย (ไม่น พีชญา) แฟนสาวของ เหไม่ง เส้าฮุย

ที่ออกติดตามคนรักเพื่อกลับไปที่ๆเรื่องราวต่างๆเริ่มต้น ทำให้ทั้งสองได้พบเห็นกับเรื่องมากมาย และเบื้องหลังความลับอันด้ามืดก็ค่อยๆเผยตัวออกมา THE NURSERY เนอสเซอปรี่เลี้ยงผี ลักษณะเด่นที่สุดของหนังประเด็นนี้ คือการเปิดประเด็นได้น่าสนใจ ขั้นแรกของหนังมีการเล่าเรื่องถึงที่มาที่ไปได้บันเทิงใจน่าติดตาม

โดยย้อนไปในตอนการทำศึกปลายวงศ์สกุลหยวน เป็นช่วงๆที่อีกทั้งราษฎรและทหารขาดอาหารอย่างมาก ก็เลยจำต้องให้ทหารซึ่งเป็นอย่างยิ่งหลักของชาติหันมารับประทานเนื้อเด็กทารกแทน แล้วก็บรรดาแม่ที่สูญเสียลูกจึงทำพิธีเรียกวิญญาณของเด็กแบเบาะที่โดนฆ่าให้กลับมาเอาคืน แล้วหลังจากนั้นฉากก็ตัดมาที่เดี๋ยวนี้

บางช่วงของหนังมีความเพียรพยายามสำหรับการบิวท์คนดูให้ตื่นกลัว ส่วนที่รังเกียจที่สุดของหนังเป็นการกล่าวร้ายตุ้งแช่มากจนบอบช้ำไปหมด รวมทั้งโดยเฉพาะในช่วงท้ายเรื่องมีการคลายเงื่อนใหญ่ได้อย่างง่ายดายเหลือเกินโดยรวมแล้ว THE NURSERY เนอสเซอปรี่เลี้ยงผี เป็นหนังสยองขวัญผสมดราม่า โปรดักชันดี ที่มิได้เน้นย้ำความหลอนเลือดสาด สามารถดูในครอบครัวได้ แต่บทและการดำเนินเรื่องอยู่ในระดับกลางๆ

อีเรียม+สิง+วิ่ง = อีเรียมซิ่ง

เป็นภาพยนตร์ไทยม้ามืดเรื่องแรกหลัง ล็อคดาวน์ วัววิด-19 เลยก็ว่าได้ ผู้ใดจะไปมีความคิดว่าหนังตลกแบบไร้สาระแบบเรื่องนี้ จะแปลงเป็นหนังทำเงินเกิน 100 ล้านเรื่องแรกของปี 2020 ที่กระแสปากต่อปากทำงานมาก โดยเฉพาะต่างจังหวัดยังคงแรงโดยตลอดติดๆกันจนตอนนี้จัดเตรียมมุ่งสู่ 150 ล้านบาทแล้วเรื่องราวกล่าวถึง

หนองกร่อย มีสองสาวพี่น้อง ที่นิสัยแตกต่างโดยสิ้นเชิง คนพี่ชื่ออีแรม มีนิสัยเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ กับน้องสาวที่ชื่ออีเรียม ผู้มีความแก่น ความโก๊ะ มุทะลุ ริษยาพี่สาวอย่างยิ่ง ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา อยู่มาวันนึ่งได้มีขโมยมาที่หมู่บ้าน เพื่อตามหาอีเรียม เพื่อเอาไปเป็นภรรยา แต่ว่าแล้วหลังจากนั้นก็ไม่เจออีเรียม

เลยได้จับเอาแม่และพี่สาวไปเป็นตัวประกัน อีเรียมจำต้องเอาตนเองไปแลกเปลี่ยนกับครอบครัวก่อนฝนแรกจะมาถึงมิเช่นนั้นพวกขโมยจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว อีเรียมก็เลยจำต้องฟอร์มทีมเพื่อไปพาตัวแม่ น้องรวมทั้งน้า กลับมาให้ได้เอาเข้าจริงแล้วพล๊อตหนังของเรื่องนี้ก็แทบมิได้มีอะไรแปลกใหม่หรือเด่นแต่อย่างใด

แม้กระนั้นที่ทำให้คนดูสำราญใจเป็นความไรสาระของมุขต่างๆที่ดาราหนังแต่ละตนส่งไปมา โบ๊ะบะกัน ตลอดทั้งข้อเท็จจริงๆยิ่งเป็นฉากที่ไร้สาระเท่าใด เรื่องนี้ทำออกมาได้เรียกได้ว่า ฮาน้ำตาเล็ดเลยก็ว่าได้ แต่ว่าพอสมควรหนังปรับเข้าโหมดจริงจัง

กลับแปลงฟิลหนังให้น่าดูเฉยๆซ้ำจากจำเจน่าเบื่อหน่ายเอาไม่น่อย (แต่ยังดีที่พาร์ทนี้มีไม่เคยมากมาย ก็เลยไม่ค่อยมีผลกระทบต่อตัวหนังทั้งหมดทั้งปวงเท่าใด) และก็แถมท้ายด้วยCameo ผู้แสดงลับช่วงท้ายที่ทำเอาคนดูวี๊ดดดด กันอีกทั้งโรงจริงๆถือว่าเป็นภาพยนตร์ไทยอีกประเด็นที่ช่วยให้คนไทยได้หายเครียดได้ในช่วงนี้ 7.5/10

รีวิวหนัง Detective Chinatown 3 กลุ่มสนุกปั่นป่วนเมืองโตเกียว – โคตรเบิกบาน สนุก ฮากระจายทั้งเรื่อง

Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนปั่นเมืองโตเกียว หนังชุด Detective Chinatown ภาคที่ 3 หลังจากที่เคยไปซ่ามาแล้วอีกทั้งกรุงเทพในภาคแรก และไปป่วนนิวยอร์กในภาคที่สอง รวมทั้งมาเรียกเสียงหัวเราะกันอีกทีที่เมืองโตเกียวในภาคลำดับที่สามอย่าง Detective Chinatown 3 หรือชื่อไทย

แก๊งมอนป่วนเมืองโตเกียว ที่มีคิวเข้าฉายในบ้านเรา 18 กุมภาพันธ์นี้ปัจจุบันกับ Detective Chinatown 3 แก๊งมอนป่วนปั่นโตเกียว เพียงแค่เปิดฉายในประเทศจีนเพียงวันแรกก็สามารถสร้างการเกิด เป็นหนังที่ทำรายได้เปิดตัวเยอะที่สุดในโลก แซงหน้า ภาพยนตร์รวมเหล่าฮีโร่อย่าง Avengers : ENDGAME ไปได้แบบชิลๆเลยทีเดียวกับ

กลุ่มสนุกสนานป่วนปั่นเมืองโตเกียว Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนเมืองโตเกียว เป็นของผู้กำกับ Sicheng Chen โดยในภาคนี้มีนักแสดงอย่างซาโตชิ ซึมาบูกิ,หลิว ห่าวหราน,หวัง เป่าเชียง รวมทั้ง นักแสดงคนไทยอย่าง จา พนม ที่ในช่วงเวลานี้กำลังฮอตสุดๆอะไรก็ ฉุดไม่อยู่จริงๆไม่ว่าจะเป็น Monster Hunter

ที่แสดงคู่กับ ไม่ลลา โยโม้วิช เมื่อปลายปีที่แล้ว และ Jiu Jitsu โคตรคน ชนเอเลี่ยน ด้ามจับคู่กับ นิโคลัส เคจ ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อต้นเดือนกุมภานี้เอง Detective Chinatown 3 กลุ่มมอนป่วนเมืองโตเกียว จะเกิดเรื่องราวของคู่ซี้สายสืบ ถังเหริน กับ ฉินเฟิง ที่จำต้องมาสืบไขคดีฆาตกรรมในห้องปิดตาย

ร่วมด้วยสายลับตัวท็อปของญี่ปุ่นอย่าง โนดะ ฮิโรชิ และก็ นักสืบคนประเทศไทยที่สวมบทโดยจาพนม ช่วยกันในการไขคดีในคราวนี้ กลายมาเป็นมหกรรมการต่อสู้ของเหล่าสายสืบที่โคตรสำราญใจบอกได้อย่างเต็มปากเลยว่าสนุกสนานรวมทั้งฮามากก กับหนังประเด็นนี้ จา พนม คือ ที่สุดของความวิกลจริตแล้ว

แถมมีบทสนทนามากยิ่งขึ้นด้วยนะ ปริศนาพลังฮีโร่ ไม่มีโฆษณา ไม่เหมือนหนังเรื่องก่อนๆที่เขาแสดง โดยหนังจะเริ่มเรื่องต่อจากภาคสองเลยที่เหล่าคู่ขานักสืบไปไขคดีที่นิวยอร์กสำเร็จ ก็ได้นั่งเรือบิน บินมาเมืองโตเกียว แค่ฉากเปิดของหนังก็ว่าฮาแล้ว ยิ่งเจอ พี่จา พนม สวมชุดมารุโก๊ะ ยิ่งฮาหนักเลย และอีกฉากที่ถูกใจส่วนตัวคือฉากชิ่งศพ

อันนี้เป็นกลั้นขำไม่ไหวจริงๆการปูเรื่องของหนังทำเป็นดีเลิศเลยทีเดียว เบาๆแก้เงื่อนต่างๆไปทีละข้อ เป็นหนังที่ค่อนข้างจะมองง่ายอีกเรื่องหนึ่งเลยล่ะ การไขคดีของ ถังเหริน หนังก็สามารถทำให้ผู้ชมรู้เรื่องได้ง่ายๆด้วยฉากความคิดของ ถังเหริน รับรองดูแล้วเข้าใจอย่างแน่นอน อีกอย่างที่แอดรู้สึกถูกใจกับหนังหัวข้อนี้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการไขคดีมากกลับไปพลิกมาตลอด

ดีกว่าเสียเปรียบ แม้กระนั้นก็แทรกความขบขันมาให้แบบจัดเต็ม ครบรสแบบสุดๆรวมไปถึงฉากบู๊ที่ต้องยกให้ พี่จา พนม เลย ที่ได้โชว์สกิลแบบจัดเต็มจริงๆและสิ่งที่ไม่สมควรพลาดอีกอย่างในหนังประเด็นนี้ซึ่งก็คือฉาก End credits ที่เปิดเผยให้เห็นถึงการมีภาคต่อในภาคที่ 4 (จะแอบพูดว่า เบื้องหลังในฉากนั้นเป็น ลอนดอน)

คนใดที่ต้องการสัมผัสภาพยนตร์จีนสุดฮาหนังหัวข้อนี้ไม่สมควรพลาด Detective Chinatown 3 Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนปั่นป่วนโตเกียว เป็นหนังที่ฮามาก โคตรหรรษา รวมทั้งบันเทิงใจมากมายก ดูเพลิดเพลินตลอด 2 ชั่วโมงเลยล่ะ แต่ว่าไม่มึนแน่นอน จา พนม บทสำหรับพูดอย่างมาก และเป็นตัวเรียกเสียงหัวเราะตัวหลักๆของเรื่องเลยนี้เลย แถมมีให้ลุ้นต่อกับภาค 4 อีกด้วย

กลับสู่หน้าหลัก https://bri-chan.com/